คนร้ายแฝงตัวร่วมละหมาด ไล่ยิงทหารพรานดับหน้ามัสยิดที่ อจะแนะ
คนร้ายแฝงตัวร่วมละหมาด ไล่ยิงทหารพรานดับหน้ามัสยิดที่ อ.จะแนะ
เกิดเหตุ 2 คนร้ายคาดเป็นกลุ่มก่อความไม่สงบ ไปร่วมนั่งละหมาดในมัสยิดที่ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ก่อนใช้ปืน 9 มม.ยิงทหารพรานที่ลาพักไปหาภรรยา และมาร่วมละหมาดร่างพรุน 8 นัด เสียชีวิต
เวลา 13.35 น. วันที่ 28 ก.ค. 66 พ.ต.อ.นราวี บินแวอารง ผกก.สภ.จะแนะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนถูกยิงเสียชีวิต ที่บริเวณหน้ามัสยิดดารุลอิสลาม ซึ่งตั้งอยู่บ้านบูยง ม.3 ต.ช้างเผือก จึงพร้อมด้วย พ.อ.ภาณุวัฒน์ สุคชเดช ผบ.ฉก.ทพ.49 พ.อ.ทวีรัตน์ เบญจาทิกุล ผบ.ฉก.ทพ.45 เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่ง รุดเดินทางไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ
พบ ปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ จำนวน 2 จุด จุดที่ 1 บริเวณที่จอดรถ จยย.ข้างอาคารมัสยิด จำนวน 3 ปลอก และที่บริเวณหน้ามัสยิด จำนวน 5 ปลอก พร้อมกองเลือดจำนวนหนึ่ง ส่วนผู้เสียชีวิตเจ้าหน้าที่ทหารได้นำส่งโรงพยาบาลจะแนะไปก่อนหน้าแล้ว ทราบชื่อ อส.ทพ.ศัยฟูดีน มะเซ็ง อายุ 30 ปี เป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครทหารพราน สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4502 กรมทหารพรานที่ 45 มีบาดแผลถูกกระสุนปืนพกขนาด 9 มม. ที่บริเวณหน้าอก 3 นัด หลัง 3 นัด และหน้าท้อง 2 นัด รวม 8 นัด
จากการสอบสวนทราบว่าหลังจากที่ อส.ทพ.ศัยฟูดีน สังกัดกองร้อย อส.ทพ.4502 ลาพัก ได้กลับมาอาศัยอยู่ที่บ้านของ น.ส.นูรีดะห์ เจ๊ะมูดอ อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นภรรยาได้เพียง 3 วัน และเมื่อถึงเวลาประกอบพิธีละหมาด อส.ทพ.ศัยฟูดีน ได้ขี่รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ ทะเบียน 1 กญ 8288 นราธิวาสไปประกอบพิธีละหมาดที่มัสยิดร่วมกับชาวบ้าน ซึ่งห่างจากบ้านของภรรยาประมาณ 1 กม. ขณะที่ อส.ทพ.ศัยฟูดีน กำลังประกอบพิธีละหมาด สังเกตเห็นชายฉกรรจ์แปลกหน้า 2 คน ที่ละหมาดปะปนกับชาวบ้านจ้องมองผิดสังเกต อส.ทพ.ศัยฟูดีน จึงอาศัยช่วงจังหวะดังกล่าวเดินลงจากมัสยิด ตรงไปยังที่จอดรถ จยย.เพื่อขี่กลับบ้านภรรยา
จังหวะนั้นคนร้าย 2 คน ได้รีบเดินตามอส.ทพ.ศัยฟูดีน ที่กำลังจะขึ้นคร่อมรถ จยย. 1 ใน 2 คนร้ายได้ชักอาวุธปืนพก ขนาด 9 มม.ออกมายิงใส่จำนวน 3 นัดซ้อน เมื่ออส.ทพ.ศัยฟูดีน ถูกยิงจึงได้พยายามวิ่งหลบหน้าออกมาบริเวณหน้ามัสยิด แล้วคนร้ายได้วิ่งถืออาวุธปืนไล่ตาม พร้อมยิงใส่ อส.ทพ.ศัยฟูดีนอีก 5 นัดซ้อนจนเสียชีวิตคาที่แล้วคนร้ายได้วิ่งไปซ้อนรถ จยย.ที่เพื่อนติดเครื่องรออยู่หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
ส่วนสาเหตุเบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า เป็นฝีมือการกระทำของสมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง เพื่อลอบดักสังหารเจ้าหน้าที่รายวัน
ที่มา : http://www.thairath.co.th/