“หนึ่งเดียวในโลก กิ้งกือสีชมพู” ที่หุบป่าตาด ป่าดึกดำบรรพ์จังหวัดอุทัยธานี หุบป่าตาดเป็นป่าดึกดำบรรพ์ ตั้งอยู่ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน
หนึ่งเดียวในโลก กลางป่าเมืองไทย กิ้งกือสีชมพู มี "ไซยาไนด์" ใช้ป้องกันตัวได้
สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช โพสต์เรื่องราวของ กิ้งกือสีชมพู ที่นักวิจัยผู้เชี่ยวชาญเรื่องหอย ศ.ดร.สมศักดิ์ ปัญหา จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นผู้ค้นพบ ที่หุบป่าตาด ป่าดึกดำบรรพ์จังหวัดอุทัยธานี โดยมีเนื้อหาต่อไปนี้
“หนึ่งเดียวในโลก กิ้งกือสีชมพู” ที่หุบป่าตาด ป่าดึกดำบรรพ์จังหวัดอุทัยธานี หุบป่าตาดเป็นป่าดึกดำบรรพ์ ตั้งอยู่ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน อยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) มีเนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ ตั้งอยู่ที่บ้านชายเขา หมู่ที่ 3 ตำบลทุ่งนางาม อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี
ปัจจุบันถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวติดอันดับต้นๆ ของจังหวัดอุทัยธานี พื้นที่นี้เคยเป็นถ้ำหินปูนมาก่อน ต่อมาเกิดการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยา ทำให้หลังคาถ้ำพังถล่มลงมา กลายเป็นหลุมยุบหรือหุบในปัจจุบันพบต้นไม้ดึกดำบรรพ์ ขึ้นอยู่หลายชนิด เช่น ต้นตาด สมพง ยมหิน ปอหูช้าง ปรง และกล้วยผา เป็นต้น
เมื่อปี พ.ศ.2550 ศ.ดร.สมศักดิ์ ปัญหา จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ค้นพบสัตว์ชนิดใหม่ของโลก ที่ต่อมาตั้งชื่อว่า กิ้งกือมังกรสีชมพู (Shocking Pink Millipede) จนเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2551 สถาบันไอไอเอสอี (International Institute of Species Exploration : IISE) แห่งมหาวิทยาลัยรัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา ได้ประกาศยืนยันให้กิ้งกือมังกรสีชมพู ที่หุบป่าตาด นี้เป็นสุดยอดของการค้นพบสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ อันดับที่สามของโลก
ลักษณะเด่นคือ มีสีชมพู ที่โดดเด่นแบบ shocking pink มีรูปร่างที่สง่างาม มีลวดลายและปุ่มหนามตามลำตัวคล้ายมังกร จัดอยู่ในวงศ์กิ้งกือมังกร หรือพาราด็อกซ์โอโซมาติเดีย (Paradoxosomatidea) เมื่อโตเต็มวัย มีลำตัวยาวประมาณ 7 เซนติเมตร มีปล้องราว 20-40 ปล้อง เป็นสัตว์ที่สามารถขับสารพิษประเภทไซยาไนด์ เพื่อป้องกันตัวเอง พบเจอได้ในช่วงระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงกลางเดือนพฤศจิกายนของทุกปี นอกจากนี้ยังพบสัตว์ป่าหายากใกล้สูญพันธุ์เช่นเลียงผาที่ออกมาหากินแทบทุกคืน
เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุนเปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. ซึ่งช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 11.00-13.00 น. เป็นช่วงที่แสงอาทิตย์ส่องลงมายังหุบเขาทำให้เกิดภาพที่สวยงามบริเวณห้องโถงถ้ำกลาง ที่มีหินงอกหินย้อย ซึ่งถือเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกกันมากที่สุด
ที่มา : มติชน