หนุ่มนักศึกษาชาวออสเตรเลีย ซึ่งอยู่ระหว่างเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษาในไต้หวัน แต่มีอันต้องล้มหมอนนอนเสื่อถูกหามส่งโรงพยาบาลเพราะบังเอิญรับประทาน ยาเบื่อหนู
นศ.ออสซี่ ป่วยหนัก ตับ-ไต-ปอด-หัวใจเสียหาย หลังกินอาหารปนเปื้อน “ยาเบื่อหนู”
นศ.ออสซี่ป่วยหนัก - มิร์เรอร์ รายงานเรื่องราวชีวิตพลิกผันของหนุ่มนักศึกษาชาวออสเตรเลีย ซึ่งอยู่ระหว่างเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษาในไต้หวัน แต่มีอันต้องล้มหมอนนอนเสื่อถูกหามส่งโรงพยาบาลเพราะบังเอิญรับประทาน ยาเบื่อหนู
นายอเล็กซ์ ชอรีย์ วัย 24 ปี พักรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู ของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยไทเป ตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา หลังกินอาหารปนเปื้อนยาเบื่อหนู “ซูเปอร์วาร์ฟาริน” (superwarfarin) ซึ่งมีพิษอย่างแรงเข้าไป
นางลิซซี ชอรีย์-คิตสัน ป้าของอเล็กซ์ กล่าวว่าไม่ทราบว่าหลานได้รับสารพิษอย่างไร แต่เชื่อว่าอาจปนเปื้อนมากับอาหารริมทาง ด้านนายฌอง-ลุก ชอรีย์ วัย 26 ปี พี่ชาย กล่าวว่าอเล็กซ์เริ่มมีอาการเลือกออกทางจมูกและมีเลือดออกปนออกมากับปัสสาวะ
แพทย์วินิฉัยเบื้องต้นว่า เป็นโรคภูมิคุ้มกันแปรปรวน ต่อมาอาการทรุดหนัก ตับ ไต ปอดและหัวใจเสียหาย มีเลือดซึมเข้าไปในกล้ามเนื้อเป็นเหตุให้ผิวหนังมีลักษณะเป็นจ้ำดำทั่วร่างกาย
อเล็กซ์ยังเกิดภาวะช็อกเพราะน้ำตาลในเลือดต่ำเป็นสัญญานฉุกเฉินว่าร่างการเสียเลือดหรือของเหลวอื่นๆ จนทำให้หัวใจสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายไม่พอด้วย นายรอสส์ ชอรีย์-คิตสัน ลุงของอเล็กซ์ กล่าวว่าหลานรู้สึกตัว แต่ยังเข้า ๆ ออก ๆ ห้องไอซียู เพราะอาการแทรกซ้อนจากการได้รับสารพิษและปอดมีของเหลวเต็มไปหมด
ขณะที่ นายสตีเฟน ชอรีย์ พ่อของอเล็กซ์ซึ่งเป็นแพทย์จากเมืองทูวูมบา รัฐควีนส์แลนด์ ออสเตรเลีย เดินทางไปไต้หวัน พร้อมขอให้ทีมแพทย์ไต้หวันตรวจเลือดและพลาสมาเพิ่มเติม ครอบครัวกล่าวอีกว่าอเล็กซ์ไม่สามารถเดินทางกลับไปออสเตรเลียด้วยสายการบินพาณิชน์เนื่องจากไม่มีอุปกรณ์กู้ชีพทางการแพทย์และต้องใช้ออกซิเจนความดันสูง พร้อมทีมแพทย์ไอซียู
ทั้งยังเสริมว่า แพทย์ในไต้หวันไม่ได้รักษาอย่างถูกต้องหรือให้ยาไม่เหมาะสมทำให้อาการไม่ดีขึ้น ครอบครัวต้องการพาอเล็กซ์กลับไปรักษาที่โรงพยาบาลรอยัล ปรินซ์อัลเบิร์ต ในนครซิดนีย์ ซึ่งมีทีมแพทย์เฉพาะทางที่เชี่ยวชาญด้านพิษวิทยา
เบื้องต้น ป้าของอเล็กซ์ตั้งเพจระดมทุนผ่านเว็บไซต์ GoFundMe เพื่อเปิดรับบริจาคค่ารักษาพยาบาลที่ประกันชีวิตไม่ครอบคลุม ขณะนี้สามารถระดมทุนได้แล้วกว่า 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 6.84 ล้านบาท
ที่มา : ข่าวสด