ผู้นำศาสนายะลาห่วงใช้กระท่อมบางกลุ่มหวังแสวงหาประโยชน์กับกลุ่มวัยรุ่น
วันที่ 26 ส.ค. 64 จากกรณีที่ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 8) พ.ศ.2564 ซึ่งมีผลในวันที่ 24 ส.ค.64 เป็นการปลดพืชกระท่อมออกจากยาเสพติดให้โทษ ทำให้ประชาชนสามารถปลูกและขายได้ รวมทั้งมีการปล่อยผู้กระทำความผิดตามกฎหมายพืชกระท่อม ในวันนั้น จำนวน 1,038 คน โดยถือว่าไม่เคยกระทำความผิดนั้น
ในเรื่องดังกล่าว นายนิมุ มะกาเจ ผู้ทรงคุณวุฒิจังหวัดยะลา ผู้นำศาสนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ เปิดเผยว่า ในการปลูกพืชกระท่อมหากนำไปขบเคี้ยว เพิ่มกำลังวังชานั้นไม่น่าเป็นห่วง แต่การนำไปเป็นธุรกิจ ค้าเพื่อแสวงหาผลประโยชน์น่าเป็นห่วงอย่างมาก ทั้งมีบางกลุ่มหวังแสวงหาประโยชน์กับกลุ่มวัยรุ่นเยาวชน นำสิ่งเหล่านี้ไปปรุงแต่งเป็นสิ่งเสพติด 4×100 , 5×100 หรือไปถึง 6×100 ซึ่งมีให้เห็นมาแล้วหลายครั้ง
ดังนั้นเจ้าหน้าที่ต่างๆ ควรที่ตระหนักในการปฏิบัติการใช้กฎหมายกวดขันควบคุมดูแลเอย่างเข้มงวด โดยมองว่าเป็นสิ่งที่ยากจะป้องกันด้วยวิธีบอกกล่าว
"เป็นห่วงมากๆ เพราะว่าสิ่งเหล่านี้ ถ้าเขาไปดัดแปลงเติมแต่งต่อไป ส่วนมีการผสมอื่นๆ จนทำให้มึนเมาอันตรายมากกว่าแค่ขบเคี้ยวกินเล่น ปรากฏว่าตาแดงแล้ว ซึ่งบางคนเมาไม่รู้ตัว คุมอารมณ์ไม่ได้ เพราะเหตุการณ์เหล่านี้มันมีมากแล้วในบ้างพื้นที่ของ 3 จังหวัดชายแดนใต้"
"อันตรายมันจะเกิดขึ้นในสภาวะอย่างนี้ เพราะฉะนั้นเราจะทำอย่างไรกับสิ่งเหล่านี้ อย่าว่าแต่ป้องกันเลย การแพร่ระบาดที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้ก็หนักสาหัสอยู่แล้ว พอปลดเสรีตรงนี้ ระบบการควบคุมเพียงพอหรือไม่ เมื่อเราประกาศให้การปลูกกระท่อมอย่างเสรีภาพมากขึ้น ก็ต้องประกาศวิธีการเพื่อเป็นกฎเกณฑ์ต่อวิธีการปฏิบัติที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันอันตรายกับชุมชนและพี่น้องประชาชนทั่วไป" นายนิมุ กล่าว
ที่มา อัมรินทร์ทีวี
ข่าวที่น่าสนใจ