สถานการณ์โควิด-19 กระทรวงสาธารณสุขเผยพบการติดเชื้อในลักษณะที่ว่าเป็นการติดเชื้อผสม
วันที่ 12 ก.ค. 64 กระทรวงสาธารณสุข ในการแถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า มีข้อมูลที่น่าสนใจโดยลงไปตรวจในแคมป์คนงานก่อสร้างขนาดใหแห่งหนึ่งในกทม. พบว่า การติดเชื้อในลักษณะที่ว่าเป็นการติดเชื้อผสม หมายความว่าในตัวคนเดียวมีทั้ง 2 สายพันธุ์ มีอยู่ประมาณ 7 ราย จากทั้งหมดกว่า 200 ราย อันนี้บอกสัญญาณว่า ถ้ามีการติดเชื้อผสมอีกบ่อยๆและจำนวนมาก จะเกิดลูกผสมไฮบริดเกิดเป็นไวรัสกลายพันธุ์ตัวใหม่ขึ้นมาได้ ซึ่งการที่รัฐบาลหยุดการเดินทาและมีมาตรการที่เข้มงวดต่างๆ เพื่อลดโอกาสของการการผสมเชื้อเกิดขึ้นบ่อย ซึ่งลักษณะเกิดในประเทศอื่นๆในโลกนี้ด้วย
“ทั้ง 7 ราย ขณะที่ดูอาการยังสบายดี ซึ่งการติดเชื้อผสมนี้ไม่ได้บอกว่าผสม 2 ตัวจะทำให้รุนแรงขึ้น แต่ต้องจับตาดูต่อไป ซึ่งการตรวจรหัสพันธุกรรมเข้าได้ทั้งอัลฟาและเดลฟาทั้ง 7 ราย ทั้งหมดยังแข็งแรงดี ระบบเฝ้าระวังก็ดำเนินการต่อไป”นพ.ศุภกิจกล่าว
อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์ฯ กล่าวว่า ส่วนกรณีสายพันธุ์เบต้า ส่วนใหญ่ยังอยู่ในภาคใต้ เขตสุขภาพที่ 11 จำนวน 24 ราย และเขตที่ 12 อีก 60 ราย แต่ที่น่าแปลกใจ คือพบในบึงกาฬ 1 ราย เป็นคนงานที่กลับมาจากไต้หวัน เมื่ออยู่ในสถานกักกันโรคครบ 14 วัน พบหาเชื้อหลายครั้งแต่ไม่พบเชื้อโควิด-19 แต่เมื่อกลับบ้านไปแล้วพบว่าป่วย และพบว่ามีการติดเชื้อในภายหลัง เป็นสายพันธุ์เบต้า
“อย่างไรก็ตาม ได้ทำการถอดรหัสพันธุกรรมไปเทียบระหว่างไต้หวัน และเทียบกับภาคใต้ ปรากฎว่าไม่ได้มาจากทั้ง 2 แหล่ง ฉะนั้น จะต้องไปไล่ดู สอบสวนโรค ทั้งนี้ ผู้ใกล้ชิดผู้ป่วยรายนี้อยู่ในระหว่างการตรวจและสอบสวนโรคอยู่ ฉะนั้น เบต้าแพร่ไม่เร็ว ยังอยู่ในภาคใต้เป็นส่วนใหญ่” นพ.ศุภกิจ กล่าว
นอกจากนี้ นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า วันนี้มีข้อมูลที่น่าสนใจ การตรวจเชื้อในแคมป์คนงานขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ซึ่งปรากฎว่า เราพบผู้ติดเชื้อผสม (Mix infection) ซึ่งหมายถึงว่า ในตัวคนๆ เดียวตรวจพบทั้ง 2 สายพันธุ์ โดยมีพบ 7 รายจากการตรวจทั้งหมด 200 กว่าราย