ที่ประชุมศบค เห็นชอบตามแนวทางกระจายวัคซีนไฟเซอร์ ที่ได้รับบริจาคตามเสนอ โดยมีรายละเอียดดังนี้
ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยแผลกระจายวัคซีนโควิด-19 ว่า ที่ประชุมศบค.มีมติแผนกระจายวัคซีนโควิด-19 ดังนี้ 1.จัดสรรวัคซีนร้อยละ 80 ของวัคซีนทั้งหมดให้พื้นที่ กทม. และปริมณฑล และเน้นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค 2. ระดมสรรพกำลังฉีดวัคซีนให้ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ใน กทม. เป็นกลุ่มเป้าหมายแรกจำนวน 1 ล้านโดส ภายใน 1-2 สัปดาห์ 3. เห็นชอบแนวทางการจัดสรรและบริหารจัดการวัคซีนบริจาคจากต่างประเทศ
ที่ประชุมศบค. เห็นชอบตามแนวทางกระจายวัคซีนไฟเซอร์ ที่ได้รับบริจาค จากประเทศสหรัฐอเมริกา 1,500,000 โดส และวันซีนแอสตร้าเซเนก้าที่ได้รับบริจาค 1,050,000 โดส ตามเสนอ โดยมีรายละเอียดดังนี้
วัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดส
กลุ่มเป้าหมาย
1. บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าที่ดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ทั่วประเทศ (ฉีดเป็น Booster dose จำนวน 1 เข็ม)
2. ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคเรื้อรัง 7 โรค
3. ชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศ เน้นผู้สูงอายุ และโรคเรื้อรัง
4. ผู้ที่มีความจำเป็นต้องฉีดวัคซีนไฟเซอร์ก่อนเดินทางไปต่างประเทศ เช่น นักเรียน/นักศึกษา นักกีฬา นักการทูต
สำหรับการกระจายวัคซีน ฉีด 2 เข็ม ห่าง 3 สัปดาห์ (ยกเว้นกรณีบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า Booster dose จำนวน 1 เข็ม) แบ่งเป็นสัญชาติไทย 1,350,000 โดส ชาวต่างชาติ 150,000 โดส โดยพื้นที่เป้าหมาย คือ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรปราการ สมุทรสาคร สงขลา นราธิวาส ปัตตานี ยะลา (มีการระบาดของสายพันธุ์เดลตา)
วัคซีนแอสตราเซเนกา 1.05 ล้านโดส
กลุ่มเป้าหมาย
1. ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคเรื้อรัง 7 โรค
2. ชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศ เน้นผู้สูงอายุ และโรคเรื้อรัง
3. ผู้ที่มีความจำเป็นต้องฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาก่อนเดินทางไปต่างประเทศ เช่น นักเรียน/นักศึกษา นักกีฬา นักการทูต
สำหรับการกระจายวัคซีน ฉีดเป็นเข็มที่ 1 แบ่งเป็นสัญชาติไทย 945,000 โดส ชาวต่างชาติ 105,000 โดส โดยพื้นที่เป้าหมาย คือ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรปราการ สมุทรสาคร ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา ภูเก็ต
ที่มา PPTV