คุมตัวนายประถม ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณจุดเกิดเหตุ โดยมีการวางกำลังตำรวจนับร้อย
เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 64 ที่กองบัญชาการตำรวภูธรภาค 9 พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภาค 9 พล.ต.ต.ดำรัส วิริยะกุล พล.ต.ต.กฤษฏา แก้วจันดี พล.ต.ต.นิตินัย หลังยาหน่าย รองผบช.ภาค 9 พล.ต.ต.ทิวธวัช นครศรี ผบก.สส.ภ.9 พล.ต.ต.อาชาน จันทร์ศิริ ผบก.ภ.จ.สงขลา
ร่วมแถลงข่าวการจับกุมนายประถม เอียดขาว อายุ 49 ปี ชาวจ.พัทลุง ผู้ต้องหาคดีฆ่าข่มขืน ชิงทรัพย์ และอำพรางศพนักเรียนสาว อายุ 15 ปี นักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.หาดใหญ่ เหตุเกิดบริเวณร่องน้ำกลางถนนสายเอเชีย ม.5 ต.บางกล่ำ อ.บางกล่ำ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 64 เมื่อเวลา 00.30 น. ที่ผ่านมา
พล.ต.ท.รณศิลป์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุตำรวจชุดคลี่คลายคดีได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลจ.สงขลา ออกหมายจับนายประถม พร้อมของกลางรถยนต์ โตโยต้า โคโรล่า ทะเบียน กง856ประจวบคีรีขันธ์ เงินสด 1,300 บาท เหล็กเปลี่ยนล้อรถ และเสื้อผ้าที่สวมใส่วันก่อเหตุ
สำหรับผลการตรวจดีเอ็นเอจากซอกเล็บของผู้ตาย พบว่าตรงกับดีเอ็นเอของผู้ต้องหา และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางมาถึงที่เกิดเหตุพบยานพาหนะของคนร้ายที่ใช้ก่อเหตุในคดี ตำรวจใช้เวลา 26 ชม. จึงสามารถจับกุมผู้กระทำผิด พร้อมยึดของกลางที่เกี่ยวกับกระทำความผิดในคดีไว้ได้ครบ
พล.ต.ท.รณศิลป์ กล่าวว่า จากการสอบสวนนายประถม รับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุฆ่าผู้ตายในคดีนี้ โดยการขับรถชนรถจยย. ของผู้ตายจนตกคูน้ำกลางถนน แล้วตามไปทำร้ายผู้ตายโดยการชกท้อง 2-3 ครั้ง แล้วข่มขืนผู้ตายจนสำเร็จความใคร่
ก่อนเอากระเป๋าสะพายของผู้ตายพร้อมเงินสด 1,300 บาทไป แต่ก่อนจะหลบหนีนั้นได้ใช้เหล็กสำหรับใช้เปลี่ยนล้อรถตีที่ใบหน้าผู้ตาย 2-3 ครั้ง จนเสียชีวิต แล้วนำรถจยย. ทับร่างของผู้ตายไว้เพื่อทำให้ดูว่าเหมือนว่าเกิดอุบัติเหตุรถตกคูน้ำเสียชีวิต
นายประถม ให้การต่อว่า หลังเกิดเหตุได้ถอดเสื้อแจ๊กเกตสีแดงของผู้ตายเช็ดน้ำอสุจิของตน แล้วนำไปทิ้งในเขต ต.คูหาใต้ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ส่วนเหล็กที่ใช้ตีผู้ตายตนนำไปล้างคราบเลือดแล้วเก็บไว้ในที่ช่องเก็บของหลังเบาะรถข้างคนขับ จากการสอบประวัตินายประถม เคยต้องคดีพรากผู้เยาว์อายุน้อยกว่า 15 ปี เพื่อการอนาจาร ในพื้นที่ สภ.บางกล่ำ เมื่อปี 2545
*********************************************
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภาค 9 ได้คุมตัวนายประถม ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณจุดเกิดเหตุ โดยมีการวางกำลังตำรวจนับร้อยนายมารักษาความเรียบร้อย เนื่องจากมีทั้งพ่อแม่ญาติพี่น้องเพื่อนและแฟนหนุ่มของผู้เสียชรวิต รวมทั้งชาวบ้านมารอดูการทำแผนเกือบ 200 คน
