พ่อของ พลทหารรชฏ เสนาสนิท เดินทางมาร้องขอความช่วยเหลือจากทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร
12 พ.ย. 63 นายสุรชัย เสนาสนิท พ่อของ พลทหารรชฏ เสนาสนิท เดินทางมาร้องขอความช่วยเหลือจากทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร และนายสิระ เจนจาคะ ประธานกรรมาธิการการกฎหมาย หลังติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของลูกชาย ในค่ายทหารแห่งหนึ่งใน จ.ขอนเเก่น
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 1 ก.ย.63 พ่อและแม่ของ พลทหารรชฏ ได้ไปส่งลูกที่ค่ายทหาร หลังจากที่ลูกสมัครใจเข้าไปเป็นทหารเอง ช่วงเเรกมีการฝึกถึงวันที่ 12 ต.ค.63 ค่ายก็ปล่อยให้กลับบ้าน ลูกก็ยังปกติ ร่าเริง ไม่มีสีหน้า ท่าทาง แววตา กดดันหรือเครียดอะไร และได้มีการไปสมัครเรียนต่อ ที่ กศน. ซึ่งก่อนกลับ พลทหารรชฏ ก็ไปหาแม่ ให้แม่ตัดผมให้เเละให้พ่อไปส่งที่ค่ายทหาร ในวันที่ 25 ต.ค.63
พ่อและเเม่ได้คุยกับพลทหารปกติ ผ่านข้อความทางเฟซบุ๊ก วันที่ 31 ต.ค. 63 ผู้เป็นพ่อคิดถึงลูกมาก จึงทักไปหา ประมาณ 19.00 น. เพื่อถามสารทุกข์สุกดิบ เมื่อรู้ว่าลูกสบายดี ก็สบายใจ
แต่แล้วเช้าวันที่ 1 พ.ย.63 มีเจ้าหน้าที่จากค่าย โทรมาบอกว่าลูก เสียชีวิตแล้ว พ่อก็ช็อก ทำอะไรไม่ถูก รีบตามไปที่โรงพยาบาลเพราะทางค่ายนำส่งโรงพยาบาลก่อนเเล้ว หลังจากนั้นก็มี เพื่อนสนิทของลูก มาบอกว่า ลูกของตนมีเเนวโน้มจะเป็นโรคซึมเศร้า เพราะเกิดการกดดันพ่อบังคับให้เป็นทหาร บังคับให้เป็นนายสิบต่อ
เมื่อพ่อฟังที่เพื่อนเล่าแล้ว ยิ่งไม่เชื่อไปกันใหญ่ เพราะ เรื่องนี้เป็นเรื่องของอนาคต ตนแค่เสนอลูกไปเท่านั้น ไม่ได้กดดันใดๆ
เรื่องราวสลดใจนี้ ทำให้พ่อและแม่คาใจมาก ไม่เบื่อว่าลูกคิดสั้นแน่นอน เพราะตั้งเเต่เกิดมาลูกไม่ได้มีแนวโน้มจะเป็นโรคซึมเศร้าเลย เป็นคนร่าเริงมาตลอด เที่ยวเล่นกับเพื่อนปกติ สนุกกับการเข้าไปในค่าย อีกทั้งยังมีการชวนเพื่อนๆ น้องๆ ให้มาเป็นทหารอีกด้วย เพราะสนุก
"ติดใจมาก ผลชันสูตรก็ยังไม่ออก แต่ทำใจไม่ได้ที่จะเอาลูกไปผ่าบ่อยๆ แค่เราเห็นรอยผ่า เรายังเจ็บแทนลูกเลย เชื่อว่าลูกไม่คิดสั้นแน่นอน ถ้าเค้า คิดจะทำร้ายตัวเองทำไมเค้าไม่ทำที่บ้านล่ะ?'