ที่อาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สมุทรปราการ ได้เปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ Special Tourist Visa (STV)
ที่อาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สมุทรปราการ ได้เปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ Special Tourist Visa (STV) กลุ่มแรกเดินทางเข้าประเทศไทย เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนประเภทพิเศษ STV จำนวน 41 คน ที่เดินทางมาด้วยสายการบิน Spring Airlines เที่ยวบินที่ 9C8579 จากเมืองเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน เข้ามาในประเทศไทย ตามนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศไทย ซึ่งนักท่องเที่ยวที่ประสงค์เดินทางมาพำนักระยะยาว (Long Stay) และต้องยอมรับการปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขที่ประกาศใช้ภายในประเทศไทย โดยนักท่องเที่ยวทุกคนที่เดินทางเข้าในประเทศไทยต้องผ่านกระบวนการตรวจคัดกรองเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามมาตรการของรัฐเหมือนกับผู้โดยสารทั่วไป และต้องตกลงยินยอมกักตัวในห้องพักจำนวน 14 วัน ตามมาตรการของรัฐ
นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายปฏิบัติการ 1) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) กล่าวว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเสมอ และมีการประสานการทำงานกับกระทรวงสาธารณสุข หน่วยงานราชการ สายการบินและผู้ปฏิบัติงานภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อกำหนดแนวทางการปฏิบัติงานร่วมกันให้สอดคล้องกับแนวทางของรัฐบาล เช่น การตั้งจุดคัดกรองของด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ การจัดเตรียมพื้นที่ตั้งห้องปฏิบัติการสำหรับการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยระบบการตรวจหาสารคัดหลั่งทางพันธุกรรม หรือ PCR ซึ่งมีความรวดเร็วและแม่นยำถึงร้อยละ 95 ที่สามารถทราบผลตรวจได้ภายใน 90 นาที
ทั้งนี้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ยังได้มีการจัดเตรียมพื้นที่บริเวณ Gate D3 และ D4 ไว้เป็นห้องพักคอยสำหรับผู้โดยสารที่ต้องรอผลตรวจ ซึ่งภายในห้องดังกล่าวมีการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ และจัดที่นั่งให้มีการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) รวมทั้งมีห้องน้ำและสิ่งอำนวยความสะดวก รวมทั้งน้ำดื่มไว้ให้บริการด้วย พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ไว้คอยอำนวยความสะดวกและให้คำแนะนำผู้โดยสารในการกรอกข้อมูลในแบบฟอร์ม (ใบ ต.8) การโหลดแอปพลิเคชั่นติดตามตัว รวมถึงการดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ
ที่ผ่านมาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ให้ความสำคัญในการปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยและด้านสาธารณสุข โดยเน้นย้ำในการดูแลรักษาความสะอาดในทุกพื้นที่ภายในท่าอากาศยานรวมถึงบริเวณพื้นที่จุดสัมผัสต่างๆ เช่น ห้องน้ำ ลิฟต์ ทางเดินเลื่อน แบบ Deep Cleaning อย่างต่อเนื่องทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง และมีการตั้งจุด Terminal Screening เพื่อตรวจคัดกรองอุณหภูมิร่างกายผู้ที่จะผ่านเข้ามาในอาคารผู้โดยสารทุกคน และได้ขอความร่วมมือให้ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการทุกคนต้องถือปฏิบัติตามวิถีชีวิตปกติรูปแบบใหม่ (New Normal) เมื่ออยู่ภายในอาคารผู้โดยสารและพื้นที่ท่าอากาศยานอย่างเคร่งครัดโดยการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เพื่อลดความแออัด ในพื้นที่ให้บริการต่างๆ และกำหนดให้ผู้โดยสาร ผู้ใช้บริการ รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ในอาคารผู้โดยสาร เพื่อเป็นการช่วยยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19