จากกรณีโลกโซเชียลฯ แชร์เรื่องราวของ ครูจุ๋ม ทำร้ายลูกศิษย์ และเป็นกระแสข่าวโด่งดัง ต่อมา
จากกรณีโลกโซเชียลฯ แชร์เรื่องราวของ "ครูจุ๋ม" ทำร้ายลูกศิษย์ และเป็นกระแสข่าวโด่งดัง ต่อมาพบว่ายังมีเพื่อนครูอีกนับสิบที่ทำร้ายเด็กนักเรียน หนึ่งในนั้นมีภาพขณะครูอิง ครูพี่เลี้ยงกำลังใช้ถุงดำคลุมหัวน้องวิน นักเรียนชั้นเนอร์สเซอรี่ ห้อง A โดยมีครูประจำชั้น คือ ครูแพรว และครูพี่เลี้ยงอีกคนในห้องเรียนยืนดูหน้าตาเฉย คลิปนี้สร้างความเทือนใจแก่ผู้เป็นพ่อแม่และคนที่เห็นเป็นอย่างยิ่ง
ก่อนหน้านี้ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ในนามตัวแทนเครือโรงเรียนสารสาสน์อย่างเป็นทางการ ได้นำ "พี่เลี้ยงจุ๋ม" เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ สามีภรรยา ซึ่งเป็นผู้ปกครองของเด็กนักเรียนชั้นอนุบาลที่ได้เข้ามาทำร้ายร่างกายพี่เลี้ยงจุ๋ม เมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา หลังเห็นกล้องวงจรปิดที่ลูกถูกทำร้ายร่างกาย
ขณะที่ แฟนเพจจำนวนมากของ "ทนายเดชา" เข้าไปวิพากษ์วิจารณ์ถึงกรณีที่ "ทนายเดชา" ไปรับว่าความให้ทางโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ทั้งยังดูแลคดีให้ครูและพี่เลี้ยง ซึ่งสร้างความเคลือบแคลงใจเกิดความสงสัยเป็นอย่างมาก ว่าเพราะเหตุใดถึงได้รับว่าความให้ฝ่ายโรงเรียนและเหล่าครู-พี่เลี้ยงที่ก่อเหตุทำร้ายเด็ก แฟนเพจบางรายถึงขนาดรับไม่ได้ โพสต์ข้อความต่อว่า พร้อมกดเลิกติดตามเป็นจำนวนมาก
ต่อมา "ทนายเดชา" ได้โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงว่า กราบเรียนคนที่ติดตาม เพจทนายคลายทุกข์ ยืนยันว่า ประกอบวิชาชีพทนายความ มา 35 ปี ไม่เคยทำผิดกฎหมายหรือศีลธรรมขอให้มั่นใจได้
ล่าสุด วันนี้ (5 ต.ค.63) นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ซึ่งนายเดชา ได้ให้สัมภาษณ์กับข่าวออนไลน์ 7HD ด้วยว่า ครูแพรว แพร และอิง ครูพี่เลี้ยงโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ จะยังไม่เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ชัยพฤกษ์ ตามที่เคยแจ้งกับพนักงานสอบสวนไว้ เนื่องจากมีความเครียดและกังวลใจจึงรอเดินทางมาพร้อมตนภายในอาทิตย์นี้
ส่วนเรื่องการมาว่าความให้ฝั่งโรงเรียน ส่งผลให้มีคนหลายฝ่ายออกมาท้วงติงนั้น ตนมองว่าเป็นเรื่องปกติที่ผู้ถูกกล่าวหาจะหาทนายว่าความให้ เพราะแม้แต่คดีข่มขืน คดีฆ่ากัน ยังมีทนายของรัฐมาว่าความให้ และถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนสามารถกระทำได้
ทนายเดชา กล่าวต่อว่า ครูพี่เลี้ยงที่ปรากฏในคลิปนั้นไม่ได้มีความเลวร้ายหมดทุกคน จะต้องดูบริบทในขณะเกิดเหตุด้วย โดยเฉพาะครูอิงที่มีภาพในกล้องวงจรปิดว่าเอาเข่ายันเด็ก และใช้ถุงดำห่อเด็กนั้น ในความเป็นจริงไม่ได้เอาเด็กใส่ถุงดำแต่เพียงแค่เอามาครอบเพื่อหยอกเล่นเท่านั้น
และล่าสุด ทนายเดชา ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัววันนี้ ระบุว่า เป็นที่ปรึกษาโรงเรียนสารสาสน์ ส่วนพี่เลี้ยงที่ถูกดำเนินคดี เข้าไปช่วยเหลือทางคดีในฐานะส่วนตัว แยกกันคนละส่วน ซึ่งมีแฟนคลับเข้ามาแสดงความเห็นจำนวนมาก โดยบอกว่า ขอเลิกติดตามนะครับ สำหรับผมจรรยาบรรณและคุณธรรมต้องมาก่อน ลาก่อนครับ "ทนายสายครู"