กรมการแพทย์ เตือนอย่าหลงเชื่อคลิปสาวสอนทำปากรูปกระจับ
จากกรณีคลิปของหญิงสาวรายหนึ่ง สาธิตวิธีทำปากรูปกระจับธรรมชาติ ด้วยการเอา "ผึ้ง" ตัวเป็นๆ มาต่อยตรงริมฝีปากบน โดยในคลิปเธอร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดทรมาน จากนั้นสาวรายนี้ก็ให้ดูว่า ริมฝีปากบนบวมเป่งออกมาอย่างเห็นได้ชัด หลังคลิปเผยแพร่ออกไปคนในโลกโซเชียลก็วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงความพิเรนทร์ของสาวรายนี้ ส่วนใหญ่บอกว่าอันตรายมาก
ล่าสุด นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ได้ออกมาเตือนว่า การทำปากรูปกระจับด้วยการเอาผึ้งมาต่อยนั้น อย่าทำโดยเด็ดขาด เพราะเหล็กในของผึ้งมีพิษ เมื่อต่อยจะทำให้เจ็บปวดมาก และหากเกิดการแพ้ ปวด บวมบริเวณที่โดนผึ้งต่อย อาจทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้รุนแรง มีลักษณะเป็นผื่นลมพิษทั้งตัว, ปากบวม และหายใจติดขัด จนถึงขั้นเสียชีวิตได้
ด้าน แพทย์หญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ บอกเพิ่มเติมว่า เมื่อผึ้งต่อย เหล็กในจะติดคาผิวหนังหลังต่อย หลังจากนั้นผึ้งจะตายเพราะต่อมพิษและอวัยวะภายในถูกดึงติดออกมากับเหล็กใน หลังถูกต่อยควรรีบเอาเหล็กในออกไปโดยเร็วที่สุด เพราะกล้ามเนื้อที่อยู่ติดกับเหล็กในยังคงบีบตัวขับพิษเข้าสู่ผิวหนังต่อไป ไม่ควรใช้นิ้วหรือแหนบหนีบดึงเหล็กใน เพราะจะเป็นการบีบไล่พิษเข้าสู่ผิวหนังมากขึ้น วิธีกำจัดเหล็กในที่ปลอดภัย คือ ใช้ขอบทู่ๆ ของบัตรเครดิตหรือสันใบมีด ทำมุมแหลมกับผิวหนังจนเกือบขนานกับผิวหนัง แล้วขูดผิวหนังบริเวณที่มีเหล็กใน เป็นวิธีทำให้เหล็กในหลุดออกมาจากผิวหนังโดยมีโอกาสน้อยที่พิษถูกขับออกมา
ผู้ที่โดนผึ้งต่อยจะเกิดอาการปวดแสบทันที ตามมาด้วยรอยต่อยบวมแดง และอาจเกิดผื่นลมพิษด้วย ปฏิกิริยานี้จะดีขึ้นภายในหลายชั่วโมง ปฏิกิริยาที่รุนแรงกว่านี้ก็อาจเกิดขึ้นได้ เช่น รอยต่อยบวมมาก และบวมได้นานถึง 1 สัปดาห์ ส่วนปฏิกิริยาแพ้รุนแรงพบได้ประมาณ 0.4-3.0% มีรายงานเกิดอาการหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะหลังถูกผึ้งต่อย
ส่วนการดูแลรักษาผึ้งต่อยขึ้นกับความรุนแรงของผื่น ถ้าเป็นไม่รุนแรง แนะนำการล้างทำความสะอาดด้วยน้ำสบู่ ประคบน้ำแข็ง และอาจฉีดยาชาเฉพาะที่ระงับปวด ยากินหรือยาฉีด อาจช่วยบรรเทาอาการคันและลมพิษ ส่วนการแพ้รุนแรง มีลักษณะเป็นผื่นลมพิษทั้งตัว, ปากบวม และหายใจติดขัด ควรรีบพาผู้ป่วยส่งห้องฉุกเฉินทันที