กรรมการสอบสวนชุดตำรวจเตรียมชงผลสอบเหตุไม่แย้ง คดี บอส วรยุทธ
พลตำรวจโทจารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรองประธานกรรมการสอบสวนชุดตำรวจคดีของนายวรยุทธ อยู่วิทยา เปิดเผยว่า วันอังคารที่ 11 สิงหาคมนี้ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะประมวลสรุปผลการตรวจสอบเสนอต่อ พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อพิจารณาสั่งการ รวมทั้ง กำหนดวันแถลงข่าวชี้แจงต่อประชาชนถึงข้อเคลือบแคลงสงสัยตามกรอบที่กรรมการได้วางแนวทางในการสอบสวนไวโดยเฉพาะประเด็นสาเหตุการสั่งไม่แย้งคำสั่งอัยการในคดีนี้
มีรายงานว่า การประชุมวันนี้เป็นการประชุมของคณะกรรมการชุดย่อยเนื่องจาก ประธานและรองประธานติดภาระกิจ โดยที่ประชุมได้เรียกพลตำรวจโทวิเชียร ตันตะวิริยะ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ / พลตำรวจโทธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ ทีมงานกองพิสูจน์หลักฐานเข้าให้ข้อมูลในประเด็นเกี่ยวกับความเร็ว
โดยประเด็นที่คณะกรรมการสอบถาม คือ วิธีการตรวจวัดความเร็วของรถยนต์เพื่อนำข้อมูลมาวินิจฉัยว่าความน่าเชื่อถือของ 2 สำนัก ระหว่าง นายสธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ อาจารย์ประจำภาควิชาฟิสิกส์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ นายสายประสิทธิ์ เกิดนิยม หัวหน้าศูนย์วิจัยเฉพาะทางวิศวกรรมการประเมินและความปลอดภัยยานยนต์ สถาบันฯพระจอมเกล้านครเหนือ เพื่อพิจารณาความน่าเชื่อถือของข้อมูล หากน่าเชื่อถือทั้ง 2 สถาบัน คณะกรรมการสอบสวนอาจทำความเห็นเสนอผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้หาหน่วยงานกลางมาตรวจพิสูจน์เพิ่ม ซึ่งประเด็นความเร็วรถของนายวรยุทธิ์ขณะนี้ยังไม่เป็นที่ยุติ
มีรายงานว่า การเข้าพบพนักงานสอบสวนของ พันตำรวจเอกธนสิทธิ แตงจั่น นักวิทยาศาสตร์ สบ.4 กลุ่มงานตรวจเคมีฟิสิกส์ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ เมื่อวันที่ 6 ส.ค. ซึ่งถูกสอบสวนต่อเนื่อง 2 วัน ปรากฎว่าพันตำรวจเอกธนสิทธิ ได้กลับคำให้ข้อมูลใหม่ระบุว่าความเร็วรถนายวรยุทธ ขณะเกิดเหตุ 177 กิโลเมตร / ชั่วโมง เหมือนกับในสำนวนครั้งแรก ส่วนที่มาให้การภายหลังเมื่อปี 2559 ระบุ ความเร็วลดลงเหลือ 79.23 กิโลเมตร / ชั่วโมง ซึ่งอ้างกับคณะกรรมการสอบสวนว่าสับสนในการคำนวณข้อมูล
นอกจากนี้ยังมีรายงานด้วยว่าจากการสอบปากคำแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ได้รับการยืนยันตรงกันว่าสารโคเคนที่พบในเลือดของนายวรยุทธ เกิดจากการเสพโคเคนและแอลกอฮอล์ คณะกรรมการจึงจะเสนอผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเพื่อพิจารณาตั้งข้อหาเสพโคเคนเพิ่มเป็นข้อหาใหม่
ที่มา สำนักข่าวไทย