การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ) และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน) ร่วมแถลงแนวทางปฏิบัติตาม
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ร่วมแถลงแนวทางปฏิบัติตามมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้า สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา โดยยึดบิลค่าไฟฟ้าเดือนกุมภาพันธ์เป็นฐานคำนวณ และกำหนดส่วนลดในเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ตามสัดส่วนที่กำหนด เช่น หากใช้ไฟฟ้าไม่ถึง 800 หน่วย ส่วนเกินเดือนฐานจะใช้ไฟฟ้าฟรีเท่ากับจ่ายไฟเท่าบิลเดือนกุมภาพันธ์
ส่วนผู้ที่ยังไม่จ่ายค่าไฟฟ้าเดือนเมษายน แนะนำผู้ใช้ไฟฟ้าพื้นที่ กฟภ. จ่ายตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม ส่วนลูกค้า กฟน.ให้จ่ายตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคมเป็นต้นไป ใช้บิลเดิมไปยื่นจ่าย ซึ่ง 2 การไฟฟ้าจะปรับปรุงส่วนลดให้โดยอัตโนมัติในระบบออนไลน์ โดยจะไม่มีการออกบิลค่าไฟฟ้าใหม่แต่อย่างใด
ส่วนผู้ที่จ่ายค่าไฟฟ้าไปแล้ว จะคืนเป็นส่วนลดเดือนต่อเดือนในบิลเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป ในส่วนผู้ที่ยังไปจ่ายค่าไฟฟ้า หรือค้างจ่าย ทั้ง 2 การไฟฟ้าไม่มีนโยบายตัดไฟฟ้าในช่วงการระบาดโควิด-19
สำหรับมาตรการลดค่าไฟร้อยละ 3 เพิ่มเติมนั้น จะเป็นการลดส่วนเพิ่มอีกในบิลค่าไฟเดือนเมษายน-มิถุนายน โดยมีจำนวนผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ได้รับประโยชน์จากการช่วยเหลือมาตรการดังกล่าวทั่วประเทศกว่า 22 ล้านราย ในพื้นที่ 77 จังหวัด รวมกว่า 23,600 ล้านบาท
นายจาตุรงค์ สุริยาศศิน ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง ในฐานะโฆษกกฟน. กล่าวว่า หน่วยที่ใช้ในแต่ละเดือนสามารถตรวจสอบจากใบแจ้งค่าไฟฟ้าตามรอบการจดหน่วยดังนี้
- หน่วยเดือนกุมภาพันธ์ 2563 เป็นฐานในการอ้างอิง ได้แก่ หน่วยในใบแจ้งค่าไฟฟ้าที่มีการจดหน่วยในช่วงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 13 มีนาคม 2563
- หน่วยเดือนมีนาคม 2563 ได้แก่ หน่วยในใบแจ้งค่าไฟฟ้าที่มีการจดหน่วยในช่วงวันที่ 14 มีนาคม ถึงวันที่ 13 เมษายน 2563
- หน่วยเดือนเมษายน 2563 ได้แก่ หน่วยในใบแจ้งค่าไฟฟ้าที่มีการจดหน่วยในช่วงวันที่ 14 เมษายน ถึงวันที่ 13 พฤษภาคม 2563
- หน่วยเดือนพฤษภาคม 2563 ได้แก่ หน่วยในใบแจ้งค่าไฟฟ้าที่มีการจดหน่วยในช่วงวันที่ 14 พฤษภาคม ถึงวันที่ 13 มิถุนายน 2563
ตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคมเป็นต้นไป สามารถนำใบแจ้งค่าไฟฟ้าเดิม ที่ยังไม่ได้ระบุส่วนลดการใช้ไฟฟ้าตามมาตรการนี้ ไปชำระค่าไฟฟ้า ซึ่งจะได้รับสิทธิ์ส่วนลดโดยอัตโนมัติ ส่วนกรณีชำระค่าไฟฟ้าไปแล้ว โดยที่ยังไม่ได้สิทธิ์ส่วนลด กฟน.จะคืนเงินโดยหักลดในค่าไฟฟ้าเดือนมิถุนายน 2563 เป็นต้นไป ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบค่าไฟฟ้าและสิทธิ์ส่วนลดการใช้ไฟฟ้าตามมาตรการนี้ได้ที่ www.mea.or.th ตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป
“เดือนฐาน ก.พ.ขอให้ผู้ใช้ดูวันจดเลขอ่านเป็นหลัก เทียบเดือนต่อเดือนเป็นหลัก ซึ่งการใช้บิลเดือนกุมภาพันธ์เป็นฐานก็นับเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ไฟฟ้า เพราะมาตรการ WFH นั้น เริ่มเดือนมีนาคมเป็นหลัก ของภาครัฐเริ่ม 18 มีนาคม ทำให้ยอดส่วนลดมีเพิ่มขึ้น เพราะเดือนกุมภาพันธ์บ้านยังใช้ไฟต่ำ” นายจาตุรงค์ กล่าว
ขณะที่ นายวิโรจน์ บัวคลี่ ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในฐานะโฆษก กฟภ. กล่าวว่า หากผู้ใช้ไฟฟ้าชำระค่าไฟฟ้าเดือนมีนาคม – เมษายน 2563 ไปแล้ว PEA จะดำเนินการคืนค่าไฟฟ้าโดยหักคืนเป็นส่วนลดค่าไฟฟ้าในเดือนมิถุนายน 2563 เป็นต้นไป จนกว่าจะครบตามยอดเงินที่ได้ชำระมาแล้ว ผู้ใช้ไฟฟ้าที่ยังไม่ได้ชำระค่าไฟฟ้าเดือนเมษายน 2563 สามารถชำระได้ตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม 2563 และตรวจสอบค่าไฟฟ้าผ่าน www.pea.co.th, PEA Smart Plus, 1129 PEA Call Center และสำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในพื้นที่
สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าที่ชำระค่าไฟฟ้าเดือนเมษายน 2563 ผ่านบัญชีธนาคาร หรือบัตรเครดิต ระบบจะตัดบัญชี/บัตรเครดิต ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2563 ด้วยยอดเงินที่ปรับปรุงตามมาตรการแล้ว
ส่วนการใช้ไฟ้ฟ้า ทั้ง 2 การไฟฟ้ายอมรับว่าภาพรวมลดจากจากผลกระทบโควิด-19 แต่หากแยกเป็นกลุ่มแล้วพบว่ากลุ่มบ้านเรือนใช้เพิ่มขึ้นจากมาตรการทำงานที่บ้าน หรือWork form Home โดยไตรมาส1/2563 ลูกค้าบ้าน PEA ใช้ไฟฟ้าเพิ่มร้อยละ 8 ลูกค้าอุตสาหกรรมลดลงร้อยละ 2-3