ภรรยาของผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 8 ต้องออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก ว่า ตั้งแต่มีนโยบายปิดหมู่บ้าน ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน
เมื่อวันที่ 11 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด- 19 ที่บ้าน ม.8 บ้านดือราแฮ ต.ตะลูโบ๊ะ อ.เมือง จ.ปัตตานี โดยได้นำผู้ป่วยไปรักษาแล้วเมื่อวันที่ 9 เม.ย.แต่ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้สั่ง”ล็อกดาวน์”ปิดหมู่บ้านดังกล่าวเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโควิด คนในห้ามออก คนนอกห้ามเข้ามา 14 วัน ทำให้ชาวบ้านกว่า 500 ครัวเรือน จำนวน 1,000 คน ส่วนใหญ่มีอาชีพค้าขาย และรับจ้างปอกกระเทียม และหัวหอม ได้รับความเดือดร้อนเรื่องอาหารการกิน เพราะทางราชการไม่ได้ช่วยเหลือใดๆ ทำให้ นางหะสะเมาะ ยะโก๊ะ ภรรยาของผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 8 ต้องออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก ว่า “ตั้งแต่มีนโยบายปิดหมู่บ้าน ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน และมาขอความช่วยเหลือ แต่ตัวเองก็พยายามหามาให้ แต่ก็ไม่ทัน เพราะเราก็เป็นชาวบ้านเหมือนกัน เดือดร้อนเช่นกัน เช่นเดียวกับชาวบ้าน ไม่มีหน่วยงานไหนมาช่วยเหลือเลย ทำให้ต้องโพสต์ขอความเห็นใจจากประชาชนทั่วไป เพื่อขอบริจาค”
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบหมู่บ้านดังกล่าวปรากฏว่า สภาพในหมู่บ้านปิดทางเข้าออกหมด คนในห้ามออก คนนอกห้ามเข้า โดยมี ผู้ใหญ่บ้าน ชุด ชรบ. และ อส. ฝ่ายพลเรือน คอยอยู่ดูแลตามจุดเข้าออกดังกล่าว ส่วน ภายในหมาบ้านเงียบ ประชาชนไม่ค่อยเดินออกไปไหนไหน เพราะกลัวโรคดังกล่าว
ขณะเดียวกัน มีประชาชนที่ทราบข้อมูลจาการโพสต์แล้ว ต่างก็นำข้าวสารอาหารแห้ง น้ำ น้ำปลา ทยอยนำมาบริจาคเป็นจำนวนมาก ซึ่งทางทีมงานผู้ใหญ่บ้านได้นำมาสะสม เพื่อแยกถุงแจกตามบ้านต่างๆทุกครัวเรือนนางหะสะเมาะ ยะโก๊ะ ภรรยาของผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเป็นผู้โพสต์ออกส่งตามโซเซียลต่างๆ เพื่อขอความเห็นใจจากผู้ศรัทธา เพราะตั้งแต่ปิดหมู่บ้าน คนในห้ามออก คนนอกห้ามเข้า ทำให้ลูกบ้านกว่า 500 ครัวเรือน ได้รับความเดือดร้อนจริง ไม่มีอาหารการกิน เพราะไม่มีรายได้ งานที่เคยทำก็ไม่สามารถทำได้ มีทั้งอาชีพค้าขาย และรับจ้างต่างเดือดร้อนไปตามๆกัน จึงจำเป็นต้องโพสต์เพื่อขอรับบริจาค ข้าวสารอาหารแห้ง ก็ต้องขอบคุณทุกฝ่ายที่เห็นใจนำมาบริจาคเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะได้รวบรวม และนัดชาวบ้านมาบรรจุหอไปมอบไปให้ทุกครัวเรือน
ที่มา เดลินิวส์