ตำรวจ ฝ่ายปกครอง เดินทางมาตรวจด่านหน้าบริเวณ ตคลองข่อย อปากเกร็ด จนนทบุรี
วันที่ 26 มี.ค.63 นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.จ.นนทบุรี พ.อ.วิรัตน์ คำวิลัย รอง ผอ.กอ.รมน.จ.นนทบุรี นพ.พนัส โสภณพงษ์ สาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ฝ่ายปกครอง เดินทางมาตรวจด่านหน้าบริเวณ ต.คลองข่อย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อแนะนำประชาสัมพันธ์ประชาชนที่จะเดินทางการข้ามพื้นที่ระหว่างจังหวัดทั่วประเทศ จะเริ่มตั้งแต่เวลา 00.01 น.วันที่ 26 มี.ค.63 เพื่อสกัดการแพร่ระบาดโควิด-19
นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผวจ.นนทบุรี กล่าวว่า หลัง ครม.ได้ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งส่วนหนึ่งในข้อ13 ให้แต่ละจังหวัดบูรณาการร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นพลเรือน ตำรวจ ทหาร เเพทย์ และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งวันนี้เราสนธิกำลังกันตั้งด่านตั้งแต่เวลา 00.01 น.เป็นต้นไป โดยจุดประสงค์หลักในการตั้งด่านเป็นการตรวจ เฝ้าระวัง สังเกตอาการ ผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโควิด 19 พร้อมเน้นย้ำเจ้าหน้าที่ทุกนายให้แนะนำผู้ขับขี่ให้เว้นระยะห่างในการนั่งในรถ การใส่หน้ากากอนามัยและให้ประชาชนใช้เจลล้างมือเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพื่อเป็นการสกัดกั้นเชื้อไวรัสและอยากขอความร่วมมือจากประชาชนทุกท่านให้ทำตามคำเเนะนำของเจ้าหน้าที่ตอนนี้ถ้าไม่จำเป็น อย่าเดินทางออกต่างจังหวัด เเละขอให้งดกิจกรรมต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่กระจายไปสู่ผู้อื่น โดยจะตั้งเฉพาะช่วงที่ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถ้าหากพบผู้ที่มีความเสี่ยงหรือมีไข้สูงจะมีเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลคลองข่อย คัดกรองอย่างละเอียดอีกครั้ง และจะทำตามขั้นตอนต่อไป
ขณะที่ก่อนหน้านี้นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้มีโทรสารในราชการภายในกระทรวงมหาดไทยให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ทุกจังหวัด ดำเนินการตามประกาศ แถลงการณ์ คำสั่ง และข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด โดยการปฏิบัติตามข้อ 10 ของข้อกำหนดฉบับที่ 1 ให้จัดทำคำสั่ง มอบหมายเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ร่วมกับตำรวจและทหารในพื้นที่ ร่วมกันตั้งด่านตรวจหรือจุดสกัดดูแลการเดินทางข้มพื้นที่จังหวัด จัดระเบียบการเดินทาง การจราจร การเฝ้าระวังหรือสังเกตอาการผู้เดินทาง และพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการติดโรค ตั้งแต่ 00.01 น. ของวันที่ 26 มี.ค. เป็นต้นไป
ทั้งนี้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้อธิบายถึงการตั้งด่ายตรวจหรือจุดสกัดระหว่างจังหวัดไว้ก่อนหน้านี้ว่า ยังไม่ได้ห้ามเดินทางข้ามจังหวัด แต่ได้วางมาตรการให้การเดินทางยากและลำบากจนไม่น่าจะเดินทางเว้นแต่คนที่มีความจำเป็นจริงๆ
ฝ่ายความมั่นคงจะจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจทหาร อาจจะใช้ กอ.รมน. อาสาสมัคร ไปตั้งจุดสกัดหรือด่านโดยเฉพาะตรงรอยต่อระหว่างจังหวัด แล้วดูว่ายานพาหนะมีการเว้นระยะในการนั่งหรือยืนบนรถห่างกันอย่างน้อย 1 เมตรหรือไม่ (ยกเว้นรถส่วนตัว) ผู้โดยสารทุกคนสวมหน้ากากหรือไม่ เรียกลงมาตรวจวัดอุณหภูมิ รวมทั้งอาจให้ใช้เจลล้างมือ ตรวจดูว่าดื่มสุราสังสรรค์บนยานพาหนะหรือไม่ ซึ่งถ้ามีก็ห้ามหรืออาจดำเนินคดี
หลังจากนี้ อาจจะมีติดแอปพลิเคชั่นติดตามตัวผู้โดยสาร ที่สำคัญผู้ที่ผ่านด่านตรวจต้องเตรียมบัตรประชาชน ซึ่งเจ้าหน้าที่อาจเรียกให้กรอกแบบฟอร์ม เพื่อหากมีกรณีรถโดยสารพบผู้ติดเชื้อจะได้ตามตัวทุกคนบนรถได้