สำนักจุฬาราชมนตรี ออกประกาศจุฬาราชมนตรี เกี่ยวกับการปฏิบัติศาสนกิจของ
21 มี.ค.63 สำนักจุฬาราชมนตรี ออกประกาศจุฬาราชมนตรี เกี่ยวกับการปฏิบัติศาสนกิจของชาวมุสลิม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ข้อปฏิบัติสำคัญ ได้แก่ การกล่าวทักทายหรือกล่าวสลาม ให้งดการสลามด้วยการสัมผัสมือ การสวมกอด และการสัมผัสแก้ม โดยให้ยกมือสลามกันเท่านั้น
ให้ผู้ดูแลมัสยิด ทำความสะอาดอุปกรณ์ และบริเวณจุดเสี่ยง เช่น ราวบันได ลูกบิดประตู ห้องน้ำ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค บ่อยกว่าปกติ โดยเฉพาะในส่วนของพื้นที่ละหมาด ต้องทำความสะอาดอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และงดบริการผ้าปูละหมาด รวมถึงไม่เปิดเครื่องปรับอากาศ ให้เปิดประตูหน้าต่างระบายอากาศแทน ขณะละหมาด
ผู้ที่เข้าร่วมปฏิบัติศาสนกิจ หากมีอาการ เช่น ไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก แม้จะมีอาการไม่มาก ให้งดไปร่วมละหมาดที่มัสยิด งดการอาบน้ำละหมาด ในบ่อน้ำ (กอเลาะห์) หรืออ่างใหญ่ร่วมกัน ให้อาบน้ำละหมาดมาจากที่บ้าน
การใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือหลังอาบน้ำละหมาด ไม่เป็นที่ต้องห้ามตามหลักการศาสนาอิสลาม และไม่ทำให้เสียน้ำละหมาด ส่วนผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ ให้งดการไปละหมาดที่มัสยิด ให้พักอยู่บ้าน 14 วันและให้ห่างจากผู้อื่น
การละหมาด ให้กระชับเวลาเหลือไม่เกิน 15 นาที และให้สวมหน้ากากอนามัยในขณะละหมาดที่มัสยิดได้ และให้จัดละหมาดเฉพาะกลุ่มไม่เกิน 5 คน เว้นระยะแถวอย่างน้อย 2 เมตร สำหรับในกรณีที่เขตพื้นที่ที่รัฐบาลประกาศห้ามรวมตัว ให้งดการละหมาดวันศุกร์ที่มัสยิด โดยให้ละหมาดบ่าย (ดุฮ์ริ) 4 รอกาอัต ที่บ้านแทน
นอกจากนี้ ยังมีการปฏิบัติกรณีมีพี่น้องชาวมุสลิมที่เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ด้วย ห้ามญาติและผู้เสียชีวิต และผู้มาเยี่ยมสัมผัสกับศพ และการจัดการศพ ให้ดำเนินตามขั้นตอนของแพทย์ทุกประการ โดยให้บุคคลที่เป็นมุสลิมที่ทำหน้าที่จัดการศพตามหลักศาสนา (อาบน้ำศพ) ต้องสวมชุดป้องกันการติดเชื้อ และนำไปฝังโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้มาตรการดังกล่าว ให้ถือปฏิบัติไปจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ