สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช
วันที่ 17 ก.พ. 63 ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ได้จัดการประมูลคลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคม ย่าน 700MHz , 2600MHz และ 26GHz รวมจำนวน 48 ใบอนุญาต เพื่อให้ผู้ประกอบการโทรคมนาคมนำไปพัฒนาการให้บริการ 5G เมื่อเริ่มทำการประมูลคลื่น 700MHz ในเวลา 09.30 น. การแข่งขันเป็นไปอย่างดุเดือด จนยืดเยื้อไปถึง 20 รอบ ทำให้ราคาปรับสูงขึ้นไปจบที่ 7,152 ล้านบาทต่อชุดคลื่นความถี่ รวม 3 ใบอนุญาต มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 51,460 ล้านบาท โดย CAT หรือ กสท. คว้าไป 2 ใบอนุญาต และ AIS อีก 1 ใบอนุญาต
หลังจากนั้นได้ทำการประมูลคลื่น 2,600 MHz ใช้เวลาเพียง 2 รอบเท่านั้น ทำให้ราคาจบที่ 1,956 ล้านบาทต่อชุดคลื่นความถี่ ราคารวม 19 ชุดอยู่ที่ 37,433 ล้านบาท ได้แก่ เอไอเอสจำนวน 10 ใบอนุญาต และ ทรู 9 ใบอนุญาต
ส่วนคลื่น 26GHz สามารถจบการแข่งขันกันได้ตั้งแต่รอบแรก 445 ล้านบาทต่อชุดคลื่นความถี่ ส่งผลให้มูลค่ารวม 26 ใบอนุญาตอยู่ที่ 11,627 ล้านบาท ผู้ชนะได้แก่เอไอเอส จำนวน 12 ใบอนุญาต, ทรู จำนวน 8 ใบอนุญาต, ทีโอที จำนวน 4 ใบอนุญาต และดีแทคจำนวน 2 ใบอนุญาต
ขณะที่นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. ได้แถลงสรุปการประมูลระบุว่า การประมูลทั้ง 3 ใบอนุญาต กสทช.สามารถนำเงินส่งเข้ารัฐได้จำนวนทั้งสิ้นกว่า 100,521 ล้านบาท ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
มีการประเมินว่า คลื่นความถี่ 5G นี้จะก่อให้เกิดการลงทุนขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปี 2563 ประมาณ 177,039 ล้านบาท คิดเป็นประมาณ 1.02% ของ GDP และในปี 2564 คาดว่าจะมีการขับเคลื่อนเศรษฐกิจขั้นต่ำประมาณ 332,619 ล้านบาท และในปี 2565 จะมีการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประมาณ 476,062 ล้านบาท