สหรัฐส่งโดรนไปโจมตีทางอากาศในกรุงแบกแดด เมืองหลวงของอิรักอีกเป็นครั้งที่ 2
วันที่ 4 ม.ค.63 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สหรัฐส่งโดรนไปโจมตีทางอากาศในกรุงแบกแดด เมืองหลวงของอิรักอีกเป็นครั้งที่ 2 เมื่อวันศุกร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 คน เป็นสมาชิกกลุ่มติดอาวุธมุสลิมชีอะต์ในอิรัก ที่เรียกตัวเองว่า กองกำลังระดมประชาชน หรือพีเอ็มยู ซึ่งเป็นองค์กรแม่ของกลุ่มติดอาวุธมุสลิมชีอะต์ทั้งหมดในอิรัก และมีอิหร่านคอยหนุนหลัง
ด้าน กระทรวงกลาโหมสหรัฐ เปิดเผยว่า การโจมตีทางอากาศครั้งที่ 2 มีเป้าหมายที่ขบวนรถของกลุ่มติดอาวุธชีอะต์กลุ่มหนึ่งในอิรัก ที่มีชื่อว่า กลุ่มอิหม่าม อาลี บริเกดส์ ขณะแล่นอยู่ใกล้กับสนามกีฬาทาจี ในกรุงแบกแดด และสหรัฐเชื่อว่า หนึ่งในผู้เสียชีวิตทั้งหก คือผู้นำของกลุ่มดังกล่าว ชื่อ ชูบุล อัล-ซาอิดี แต่ทางพีเอ็มยูปฏิเสธการเสียชีวิตของอัล-ซาอิดี
การโจมตีทางอากาศในอิรักครั้งที่ 2 เป็นส่วนหนึ่งของแผนการที่เพิ่งได้รับอนุมัติจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา โดยการโจมตีทางอากาศครั้งแรกตามแผนการดังกล่าว ได้สังหารพลตรีกาเซ็ม โซเลมานี่ ผู้บัญชาการกองกำลังคุดส์ของอิหร่าน ขณะอยู่ในกรุงแบกแดดของอิรัก การโจมตีรอบแรกมีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 7 คน รวมถึงพลตรีโซเลมานี่
ขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมสหรัฐ เปิดเผยภาพการส่งทหารนาวิกโยธินสหรัฐ ไปเสริมกำลังในอิรักเมื่อวานนี้ (ศุกร์) เพื่อเพิ่มการคุ้มครองสถานทูตสหรัฐในกรุงแบกแดด หลังจากที่สหรัฐได้สังหารพลตรีสุเลมานี่ของอิหร่านไป และอิหร่านประกาศจะแก้แค้น และหลังจากที่ในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา เพิ่งเกิดเหตุผู้ประท้วงบุกล้อมสถานทูตสหรัฐในกรุงแบกแดด
ส่วนที่อิหร่าน อยาตอลลาห์อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน เดินทางไปเยี่ยมบ้านของพลตรีโซเลมานี่ด้วยตนเองเมื่อวานนี้ (ศุกร์) เพื่อแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของพลตรีโซเลมานี่ ก่อนหน้านี้ อยาตอลลาห์คาเมเนอีได้ประกาศไว้อาลัยทั่วประเทศ ต่อการเสียชีวิตของพลตรีโซเลมานี่ เป็นเวลา 3 วัน และประกาศจะล้างแค้นผู้ที่สังหารโซเลเมนี่
สำหรับพลตรีโซเลมานี่ วัย 62 ปี นับเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจมากเป็นอันดับ 2 ในอิหร่าน รองจากอยาตอลลาห์คาเมนีเท่านั้น และทรงอำนาจมากกว่าประธานาธิบดีของอิหร่านด้วย ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา โซเลมานี่เคยรอดชีวิตจากการถูกลอบสังหารมาแล้วหลายครั้ง ทั้งจากฝีมือของชาติตะวันตก อิสราเอล และประเทศอาหรับ