ลิเวอร์พูล ที่เต็มไปด้วยนักเตะสำรองและแข้งดาวรุ่งเข่นเอาชนะในการดวลลูกจุดโทษ
ลิเวอร์พูล ที่เต็มไปด้วยนักเตะสำรองและแข้งดาวรุ่งเข่นเอาชนะในการดวลลูกจุดโทษ อาร์เซนอล 5-4 หลังเสมอกันในเวลาด้วยสกอร์มโหฬาร 5-5 ทะลุเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายศึก คาราบาว คัพ
เกมออกสตาร์ทด้วยการได้ประตูขึ้นนำ 1-0 อย่างรวดเร็วของ หงส์แดง ตั้งแต่นาทีที่ 6 เมื่อลูกครอสกระดอนพื้นระดับเข่าที่ริมเส้นฝั่งขวาของ อเล็กซ์ อ็อกซ์เหลด-แชมเบอร์เลน เข้าไปในกรอบ 6 หลา เป็น ชโครดาน มุสตาฟี ที่พยายามล้มตัวสกัดต่อบอลไปถูกเข่าผิดเหลี่ยมเปลี่ยนทางเป็นประตู
ไอ้ปืนใหญ่ มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 อย่างรวดเร็วในนาทีที่ 19 จากจังหวะที่แนวรับเจ้าถิ่นสกัดบอลกันไม่ขาด ก่อนที่ เมซุต เออซิล จะได้เปิดเลียดเข้าทางปืน บูกาโย ซาก้า ยิงจังหวะแรกติดเซฟ เคลเลเฮอร์ ที่ปัดบอลไปหยุดที่หน้า ลูคัส ตอร์เรย์รา ซ้ำระยะเผาขน
เดอะกันเนอร์ส พลิกขึ้นนำสำเร็จ 2-1 ในนาทีที่ 26 เมื่อ ตอร์เรย์รา ฉวยโอกาสเล่นฟรีคิกเร็วให้ เอนสลีย์ เมตแลนด์-ไนลส์ หลุดขึ้นไปที่กราบขวาจี้เข้าหากรอบเขตโทษก่อนเปิดยัดให้ ตอร์เรย์รา เติมขึ้นไปชาร์จระยะเผาขนติดเซฟเข้าทาง กาเบรียล มาร์ติเนลลี ซ้ำจ่อๆ เสยเพดานตาข่าย
ทัพ เร้ดแมชีน ตีตื้นขึ้นมาเป็น 3-2 ในนาทีที่ 43 เมื่อ เอลเลียต ถูก มาร์ติเนลลี สกัดล้มลงในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้ให้เป็นลูกจุดโทษทันทีและ เจมส์ มิลเนอร์ สังหารไม่พลาดและจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ดังกล่าว
เริ่มต้นครึ่งหลังมาได้ราว 10 นาที เจ้าถิ่นก็แสดงความผิดพลาดในการเซ็ตเกมที่แดนหลังให้เห็นอีกครั้ง คราวนี้เป็น มิลเนอร์ ที่ส่งคืนให้ เคลเลเฮอร์ เบาเกินไปจน เมตแลนด์-ไนลส์ ตัดบอลไปได้และแข้งสารพัดประโยชน์ ไอ้ปืนใหญ่ แตะบอลหนีมือกาว หงส์แดง บอลกลิ้งทำท่าจะหลุดเสาออกหลังแต่ เออซิล ตามเก็บได้ทันและไขว้ให้ดาวเตะวัย 22 ปีสังหารโล่งๆ เป็นประตูทิ้ง 4-2
เร้ดแมชีน มาได้ประตูุจุดประกาย 3-4 แค่เพียง 4 นาทีให้หลังจากจังหวะที่ อ็อกซ์เหลด-แชมเบอร์เลน ชิงเข้าถึงบอลก่อน เมตแลนด์-ไนลส์ ที่หน้ากรอบเขตโทษก่อนซัดเต็มแรงจากนอกกรอบ บอลพุ่งส่ายหนีมือ มาร์ติเนซ ตุงตาข่ายสุดสวย ตามด้วยประตูตีเสมอ 4-4 ในนาทีที่ 62 จากช็อตพลิกบอลหน้าปากประตูของ ดิว็อค โอริกี ก่อนซัลโวเต็มแรงติดปลายมือของนายทวารทีมเยือนที่ปัดไม่พ้นประตู
อย่างไรก็ตาม ทีมเยือนมาได้ประตู 5-4 ขึ้นนำอีกครั้งในจังหวะสวนกลับนาทีที่ 70 เมื่อ โจ วิลล็อค พาบอลกระชากจากวงกลมกลางสนามถึงหน้าปากประตูเจ้าบ้านก่อนตัดสินใจยิงไกลด้วยเท้าขวา บอลติดไซด์โป้งหนีมือ เคลเลเฮอร์ ที่พยายามบินปัดสุดเอื้อมแต่ไม่ถึงบอล
กมทำท่าจะจบลงด้วยชัยชนะของ เดอะกันเนอร์ส แต่แล้วในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ บอลจากลูกเปิดของ เนโก้ วิลเลียมส์ ที่สุดเส้นหลังของกราบขวาก็ลอยข้ามหัว มัตเตโอ เกนดูซี ไปตกที่บริเวณจุดโทษเข้าทาง โอริกี ที่ฉีกหนี เอคตอร์ เบเยริน ล้มตัววอลเลย์เน้นๆ ตุงตาข่ายเป็นประตู 5-5 และจบ 90 นาทีไปด้วยสกอร์ดังกล่าวจนต้องตัดสินด้วยการดวลลูกจุดโทษ