คณะเจ้าหน้าที่สนธิกำลัง บุกยึดเดอะคิงคองฯเขาค้อฐานบุกรุกป่า
คณะเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย ประกอบด้วยชุดพยัคฆ์ไพร ศปก.4 กม.รมน, สำนักบริหารจัดการทรัพยาป่าไม้ที่ 4 พิษณุโลก, ป่าไม้ฯเพชรบูรณ์, ทหาร, ตำรวจ สภ.เขาค้อ, ตชด., บก.ปทส, ขนส่งจังหวัดฯ ตม.เพชรบูรณ์และฝ่ายปกครองในพื้นที่ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ นำโดยนายนฤพันธ์ ทิพย์มณฑา หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร), พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หน.ชป.ศปป.4 กอ.รมน., นายชิต อินทรนก ผอ.สำนักบริหารฯที่ 4 เข้าทำการตรวจสอบพื้นที่เดอะคิงคอง หมู่ที่ 7 บ้านเพชรดำ ต.ทุ่งสมอ อ.เขาค้อ สถานที่แลนด์มาร์กให้บริการนักท่องเที่ยวชื่อดังและยังให้บริการเต้นที่พัก หลังจากทางเจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องเรียนว่าก่อสร้างสิ่งปลูกในเขตพื้นที่ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต
โดยทางเจ้าหน้าที่ได้พบนางวารุณี สินยี่ อายุ 29 ปี อยู่ หมู่ที่ 10 ต.เขาค้อ, นางสุรีรัตน์ สินเช้า อายุ 44 ปี อยู่ หมู่ที่ 10 ต.เขาค้อ อ.เขาค้อ และนายอัมรินทร์ ชูเพชร “สจ.อ่ำ” อายุ 42 ปี โดยสองรายแรกรับว่าเป็นเจ้าของและผู้ดูแล ส่วนในรายนายอัมรินทร์นั้นบ่ายเบี่ยงอ้างไม่ได้เกี่ยวข้อง แต่ภายหลังถูกจี้ถามทำให้นายอัมรินทร์ยอมรับเป็นเจ้าของเช่นกัน อย่างไรก็ตามนางวารุณีได้นำเอกสารมาแสดง แต่หลังการนำชี้แนวเขตพบว่าที่ดินเดอะคิงคองค่อมแปลงอื่น
ทางเจ้าหน้าที่จึงบันทึกการตรวจยึดพื้นที่และสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด ส่วนแปลงที่ดินที่ตรวจยึดเนื้อที่ 14 ไร่ 2 งาน 36 ตารางวา คิดเป็นค่าเสียหายของรัฐ 2,188,500 บาท จากนี้เตรียมรุดเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษนางวารุณีและนายอัมรินทร์ในข้อหาบุกป่า พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484
จากนั้นคณะเจ้าหน้าที่ยังขยายการตรวจสอบรถรางซึ่งมีการนำไปแอบซุกซ่อนในแปลงที่ดินภายในทุ่งกังหันลมที่เจ้าหน้าที่เคยตรวจยึดมาก่อน และยังขยายผลตรวจสอบสิ่งปลูกสร้างรีสอร์ทหลังทุ่งกังหันลม นอกจากนี้ยังตรวจสอบแปลงที่ดินชาวบ้านซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้างร้านกาแฟและทำลานกางเต็นท์