สาววัย 21 โร่แจ้งความหมิ่นประมาท หลังโพสต์หางาน แต่เจอสาวอ้างจบปริญญาโทดูถูก บอกให้เป็นขอทานหรือขายตัว
วันที่ 16 ต.ค. น.ส.จุฑามาศ โต๊ะสูงเนิน อายุ 21 ปี ชาวอำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ นำหลักฐานเป็นข้อความที่มีการแสดงความคิดเห็นในเฟซบุ๊กกลุ่มหางานกลุ่มหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ เข้าแจ้งความที่ สภ.สันทราย ให้ดำเนินคดีกับหญิงสาวผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา โดยระบุว่าหญิงคนดังกล่าวได้แสดงความเห็นต่อว่าตนอย่างรุนแรง เป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามทำให้ตนเองเสียหาย
น.ส.จุฑามาศ เล่าว่า ตนเองอาศัยอยู่กับครอบครัวแฟนหนุ่มที่อำเภอดอยสะเก็ด ต่อมาตั้งครรภ์ได้ 3 เดือน แต่ก็แท้งลูกไปทำให้ร่างกายไม่แข็งแรง แต่ก็อยากหางานทำเพื่อช่วยเหลือแบ่งเบาครอบครัวแฟนหนุ่ม จึงได้เฟซบุ๊กของตัวเองที่ชื่อว่า “มะนอย จัง” โพสต์หางานในกลุ่มหางานกลุ่มหนึ่ง เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ที่ผ่านมา ระบุว่า “หางานทำค่ะ ของานไม่หนัก แม่บ้าน หรือ ขายของ ขอไม่ไกลมากค่ะ” ซึ่งเหตุที่ของานไม่หนัก เพราะหมอสั่งห้ามทำงานหนักจากการแท้งลูกและร่างกายยังไม่แข็งแรงตามปกติ
หลังจากโพสต์ไปปรากฏว่าได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่ง มีรูปโปรไฟล์เป็นหญิงสาวหน้าตาดีเข้ามาแสดงความเห็นต่อว่าตนเองอย่างรุนแรง ทั้งที่ไม่เคยรู้จักหรือมีปัญหาอะไรกันมาก่อน โดยบอกให้ไปขอทานเพราะเป็นงานสบายกว่างานแม่บ้าน หลังจากนั้นได้มีสมาชิกในกลุ่มเข้ามาต่อว่าและขอร้องให้ใช้ถ้อยคำสุภาพ แต่หญิงสาวคนดังกล่าวกลับไม่ยอมหยุด ตอบโต้กับสมาชิกกลุ่มอีกหลายคน แม้ตนเองจะขอร้องว่าให้เกียรติกันบ้าง แต่ก็ไม่มีท่าทีจะเข้าใจ ทั้งยังยกเรื่องการศึกษา อ้างตัวจบปริญญาโท 2 ใบ มาต่อว่าอย่างดุเดือดและถ้อยคำรุนแรง และดูถูกว่าคนจนดราม่าก็ต้องจนต่อไป เอาแต่เลือกงานก็จนไปจนตาย รวมทั้งยังไล่ให้ตนเองไปขายตัว
น.ส.จุฑามาศ กล่าวด้วยว่า การดูถูกเหยียดหยามคนอื่นเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น ไม่ว่าจะในชีวิตจริงหรือในสังคมออนไลน์ ยืนยันว่าแม้ตนเองจะยากจน ทำงานเก็บเห็ด เก็บของป่ามาขาย แต่ก็เป็นคนเหมือนกัน จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความเพราะต้องการให้เป็นตัวอย่างในสังคม ให้เห็นว่าไม่ว่าใครจะรวยหรือจะจบการศึกษาสูงก็ไม่มีสิทธิ์ดูถูกคนอื่นที่ด้อยโอกาสกว่า
ขณะที่นายพันธนะ ไชยช่อฟ้า นักกิจกรรมสังคมในจังหวัดเชียงใหม่ ที่เข้ามาช่วยเหลือ น.ส. จุฑามาศ เกล่าวว่า การบูลลี่ไม่ควรเกิดขึ้นกับใครก็ตามในสังคม โดยเฉพาะกับการดูถูกมองคนอื่นต่ำกว่าตัวเอง เมื่อเห็นเรื่องนี้จึงยื่นมือเข้าช่วยเหลือ นอกจากข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา หากเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ก็จะแจ้งเพิ่มอีกหนึ่งข้อหา