คดีปล้นเซเว่นชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ระดมทีม จึงสามารถจับกุมตัว
จากกรณีเมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา เวลาประมาณ 02.30 น. ได้เกิดเหตุจี้ชิงทรัพย์ในร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น สาขาชุมชนบ้านโพธิ์ รหัส 6225 ตำบลบ้านโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
โดยคนร้าย 1 คน คาดว่าอายุประมาณ 20-30 ปี สูงประมาณ 160-165 เซนติเมตร สวมหมวกกันน็อคแบบเต็มใบ ใส่เสื้อแจ๊กเก็ตสีเข้ม เดินเข้ามาภายในร้านแล้วชักอาวุธมีดออกมาข่มขู่พนักงานของร้าน
ก่อนชิงเอาทรัพย์สินซึ่งเป็นเงินสดจำนวนกว่า 2 ล้านบาทที่อยู่ภายในตู้เซฟภายในร้านหลบหนีไป
ล่าสุดชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ระดมทีมสายสืบเร่งแกะรอยหาเบาะแสคนร้ายใช้เวลา 36 ชั่วโมง จึงสามารถจับกุมตัว น.ส.รจนา ช่องกลาง อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 138/1 หมู่ 7 ต.ด้านคล้า อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ
โดยไล่ติดตามจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่ผู้ต้องหาหลบหนี รวมทั้งข้อมูลจากคำให้การของพยานแวดล้อมที่อยู่ในร้านก่อนติดตามไปจับกุมตัวได้ที่บ้านพัก ซึ่งขณะเจอทีมตำรวจสืบสวนน.ส.รจนา ถึงกลับหน้าถอดสีเพราะกลัวความผิด
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.จอหอ หลังเค้นสอบอยู่นาน 2 ชั่วโมง ทีแรกผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ แต่ยอมรับว่าคนร้ายที่ปรากฏในภาพกล้องวงจรปิดมีลักษณะคล้ายรูปร่างตนเอง กระทั่งยอมเปิดปากรับสารภาพแต่โดยดีในเวลาต่อมา
สอบสวน น.ส.รจนา ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า เคยเป็นอดีตพนักงานประจำร้านแต่ถูกไล่ออกเมื่อปลายปีที่แล้ว เนื่องจากมีพฤติกรรมขโมยเงินของทางร้านก่อนถูกจับได้แล้วถูกไล่ออกจากงาน ครอบครัวติดหนี้สินจำนวนมาก เมื่อตนตกงานก็เป็นภาระให้สามีทำงานเลี้ยงดูแต่เพียงฝ่ายเดียว และต้องดูแลลูกชายอายุ 1 ขวบเศษ
ประกอบกับแค้นใจที่เคยถูกไล่ออกจากงานจึงวางแผนลงมือก่อเหตุเพราะรู้ความเคลื่อนไหวภายในร้านเป็นอย่างดีว่าช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ก่อนสิ้นเดือนทางร้านจะเก็บเงินไว้ในตู้เซฟเป็นจำนวนมาก ก่อนตัดสินใจขับขี่รถจักรยานยนต์มาจากบ้านพักที่บ้านด่านคล้า ต.ด่านคล้า อ.โนนสูง มาที่ร้านซึ่งอยู่ห่างกัน 15 กิโลเมตร แล้วลงมือก่อเหตุแต่เพียงลำพังผู้เดียว
โดยไม่มีผู้ใดรู้เห็นด้วย หลังก่อเหตุสำเร็จได้โยนหมวกกันน็อกทิ้งลงป่าข้างทางก่อนนำเงินที่ใส่กระเป๋าสะพายมา ทำการเปลี่ยนถ่ายใส่ถุงพลาสติกนำไปซุกซ่อนไว้ในถังส้วมหลังบ้านพัก โดยยังไม่ได้ใช้เงินแม้แต่บาทเดียว เตรียมวางแผนจะนำเงินไปใช้หนี้ และหนีไปทำงานที่ประเทศเกาหลีแต่ถูกตำรวจจับกุมได้เสียก่อน