เด็กชายวัย 14 ปี เขาขึ้นเครื่องบินของสายการบินยูไนเต็ดไปเยอรมนี
วันที่ 2 กรกฎาคม 2562 เว็บไซต์ดิอินดิเพนเดนท์ รายงานว่า สายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ส (United Airlines) ของสหรัฐอเมริกา
ทำงานผิดพลาดในการจัดการผู้โดยสารเด็กที่ไม่มีผู้ปกครองเดินทางมาด้วย (Unaccompanied Minor) แทนที่จะส่งเขาไปขึ้นเครื่องบินไปสวีเดนตามกำหนด
กลับพาเขาขึ้นเครื่องบินไปประเทศอื่น สร้างความวุ่นวายเป็นอย่างมาก และผู้ปกครองก็เป็นกังวลอย่างยิ่ง เพราะไม่สามารถติดต่อลูกได้ อีกทั้งใช้เวลานานมากในการติดต่อสายการบิน กว่าจะประสานงานแก้ไขปัญหาได้เวลาก็ผ่านไปเป็นวัน
ผู้โดยสารคนดังกล่าวคือ เด็กชายวัย 14 ปี ชื่อ แอนตอน เบิร์ก เขาขึ้นเครื่องบินของสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ส จากสนามบินนานาชาติราลีห์-เดอร์แฮม รัฐนอร์ทแคโรไลนา มายังสนามบินนานาชาตินิวอาร์ก รัฐนิวเจอร์ซีย์ และมีกำหนดต่อเครื่องบินของสายการบินสแกนดิเนเวียนแอร์ไลน์ส หรือเอสเอเอส (SAS - Scandinavian Airlines) เที่ยวบินที่ SK904 เดินทางไปหาคุณตาคุณยายที่กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน
แต่ปัญหาคือแอนตอนถูกพาไปขึ้นเครื่องบินผิดลำ กลายเป็นเที่ยวบินซึ่งกำลังจะมุ่งหน้าไปยังสนามบินนานาชาติดุสเซลดอร์ฟ ในเมืองดุสเซลดอร์ฟ ประเทศเยอรมนี
ข้อมูลจากเว็บไซต์เอวิเอชั่น24 ระบุว่า ทางยูไนเต็ดแอร์ไลน์สส่งตัวเด็กชายไปขึ้นเครื่อบินของสายการบินยูโรวิงส์ (Eurowings) เที่ยวบินที่ EW1113 ปฏิบัติการโดยสายการบินบรัสเซลส์แอร์ไลน์ส (Brussels Airlines)
โดย เบรนดา เบิร์ก แม่ของแอนตอน ทวีตเล่าว่า ในช่วงที่เครื่องบินกำลังจะเทกออฟ ลูกชายเพิ่งรู้ว่าตัวเองขึ้นเครื่องบินผิดลำ เขาจึงแจ้งให้ลูกเรือรับทราบ กัปตันจึงวนเครื่องบินย้อนกลับมายังเกต และหลังจากนั้นก็ไม่ได้คุยกับลูกชายอีกเลย
สายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์สเรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียม 150 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4,600 บาท สำหรับการดูแลผู้โดยสารเด็กที่ไม่มีผู้ครองเดินทางมาด้วย ตั้งแต่อายุ 5-14 ปี ซึ่งเบรนดาได้จ่ายเงินจำนวนนี้ไปเรียบร้อยแล้ว และก็คิดว่าจะได้รับการบริการที่ดี หายห่วงได้ แต่มันไม่เป็นเช่นนั้น
เธอเล่าว่า สายการบินดูแลลูกเธอได้ไม่ทันถึง 20 นาที ก็พาเขาไปขึ้นเครื่องบินผิดลำแล้ว เธอร้อนใจและเป็นกังวลมาก พยายามติดต่อหายูไนเต็ดแอร์ไลน์ส ทั้งทางโทรศัพท์ รวมทั้งทางโซเชียล แต่ติดต่อไม่ได้ อีกทั้งไม่มีใครติดต่อกลับมา เธอจึงไม่รู้เลยว่าลูกเป็นอย่างไรบ้าง เมื่อติดต่อถึงโอเปอเรเตอร์ได้ ก็ต้องมารอสายอีกเป็นชั่วโมง ๆ
"มันตลกร้ายมากเลย ถ้าฉันเดินทางไปกับลูก มันจะไม่มีทางเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเด็ดขาด คิดดูนะคะ ถ้าหากเขาเป็นเด็ก 6 ขวบ แล้วขึ้นเครื่องบินผิดลำไปเยอรมนี และเครื่องออกไปแล้วครึ่งทาง จะเกิดอะไรขึ้น"
"ฉันอึ้งมากที่ยูไนเต็ดแอร์ไลน์สโบ้ยความผิดให้สแกนดิเนเวียนแอร์ไลน์ส ทั้ง ๆ ที่พวกเขาเป็นคนรับเงินฉันไป และเป็นคนที่ต้องจัดการ แล้วหลังจากโทร. ไปเป็นชั่วโมง สิ่งที่พวกเขาบอกฉันคือ 'ขอภัย ทางเราไม่สามารถให้สัญญาว่าจะมีใครโทร. ติดต่อคุณกลับ' แบบนี้ก็ได้เหรอ" เบรนดา ระบายความรู้สึกผ่านทวิตเตอร์ Brenda Berg
รายงานระบุว่า กว่าที่แอนตอนจะได้ลงจากเครื่องบิน เขาก็สายไปมากแล้ว และยังต้องมารอในอาคารผู้โดยสารอีก เขาจึงไม่สามารถไปต่อเครื่องของสแกนดิเนเวียนแอร์ไลน์สได้ทัน เบรนดา เล่าว่า กว่าที่เธอจะสามารถติดต่อยูไนเต็ดแอร์ไลน์สได้ เวลาก็ผ่านไปถึง 5 ชั่วโมง แต่พวกเขาก็ยังไม่ได้จัดการอะไรให้ทั้งที่เป็นฝ่ายผิด
ยูโรวิงส์ได้ช่วยเท่าที่ทำได้ สแกนดิเนเวียนแอร์ไลน์สก็พยายามช่วยประสานงานและจองตั๋วเครื่องบินให้แอนตอนใหม่ ซึ่งจุดหมายปลายทางยังคงไม่ใช่สวีเดน แต่เป็นกรุงโคเปนเฮเกน เมืองหลวงของประเทศเดนมาร์ก ห่างจากกรุงสตอกโฮล์มประมาณ 650 กิโลเมตร และให้แอนตอนไปต่อเครื่องที่นั่นอีกที
หลังจากที่ผจญภัยมานาน หนุ่มน้อยแอนตอนก็มาถึงที่หมายในที่สุด ช้าจากกำหนดเดิมไป 7 ชั่วโมง เบรนดา เล่าว่า ลูกเหนื่อยล้ามาก ตอนนี้ปลอดภัย และคุณตาคุณยายก็มารับไปแล้ว เธอเองก็เหนื่อยมากเช่นกัน เพราะเธอไม่ได้หลับเลย ต้องคอยตามเรื่องอยู่ตลอดทั้งคืน
เบรนดา กล่าวอีกว่า ครั้งนี้เธอเข็ดขยาด จะไม่ใช้บริการของยูไนเต็ดแอร์ไลน์สอีกต่อไปแล้ว และขณะนี้เธอกำลังรอการขอโทษ รวมทั้งคำชี้แจงจากทางยูไนเต็ดแอร์ไลน์ส แต่ยังไม่ได้รับคำตอบใด ๆ