Google Maps มึนหนัก แนะนำทางลัดใกล้ที่สุด กลายเป็นพาคนลงทุ่ง
จากการรายงานของเว็บไซต์สถานีวิทยุแห่งชาติสหรัฐฯ หรือเอ็นพีอาร์ เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2562 ระบุว่า ผู้ใช้รถใช้ถนนจำนวนมากในเมืองเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด
พบว่าพวกเขาถูกกูเกิลแมปนำทางผิดพลาด แทนที่จะพายังไปจุดหมายที่ต้องการ กลับพาไปยังทุ่งรกร้างว่างเปล่า รวมแล้วมีคนกว่า 100 คน ที่ต้องมาติดหล่มโคลนในทุ่งนี้อย่างพร้อมเพรียงกันโดยมิได้นัดหมาย
คอนนี่ มอนซีส หนึ่งในผู้เดือดร้อนจากเหตุการณ์ดังกล่าว เล่าว่า ในช่วงก่อนเกิดเหตุ เธอขับรถออกจากบ้านเพื่อจะไปรับสามีที่สนามบินนานาชาติเดนเวอร์ เธอได้เปิดกูเกิลแมปดู เพื่อหาเส้นทางที่ใกล้และไปง่ายที่สุด แอปได้แนะนำเส้นทางหนึ่งซึ่งใช้เวลาในการเดินทางน้อยกว่าทางอื่น
คอนนี่จึงตัดสินใจขับตามไปทันที แต่เมื่อขับไปได้สักพัก คอนนี่ก็พบว่าถนนแย่ลงทุกที จากถนนคอนกรีตดี ๆ กลายเป็นถนนดิ ตอนนั้นคอนนี่ก็เริ่มเอะใจแล้ว
แต่เธอเห็นรถคันอื่น ๆ มากันเยอะมาก จึงคิดว่ามันไม่น่าจะมีปัญหาอะไร มันคงเป็นทางลัดที่ดีแน่นอน
เธอจึงขับตรงไปเรื่อย ๆ ก่อนจะพบว่าถนนเส้นนี้พาเธอไปลงทุ่ง และที่แย่กว่านั้นก็คือ มันไม่มีจุดยูเทิร์นให้เลี้ยวกลับ อีกทั้งก่อนหน้านี้มีฝนตกลงมา
บางส่วนของถนนดินจึงกลายเป็นถนนโคลน รถหลายคันติดหล่มขึ้นไม่ได้ เคราะห์ดีที่รถของคอนนี่เป็นรถโฟร์วีล เธอจึงสามารถขับออกมาจากหลุมโคลนได้สำเร็จ
ในตอนนั้น คนอื่นที่ขับรถตามมาในเส้นทางนี้ ต่างลงมาจากรถ ยืนงงกันอยู่กลางทุ่ง คิดไม่ตกว่ามาที่นี่ได้อย่างไร และควรทำอย่างไรต่อไปดี
คอนนี่กล่าวว่า แม้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะทำให้ปวดหัวไม่น้อย แต่เธอก็ไม่ได้โกรธกูเกิลแมป มันเพราะเป็นตัวเธอเองอยากได้ทางลัดที่ใกล้ที่สุด จนสุดท้ายมาโผล่ที่ไหนก็ไม่รู้ที่ไม่ควรจะมาตั้งแต่แรก
หลังเกิดเหตุ โฆษกของทางกูเกิลแมป ได้ชี้แจงกับเอ็นพีอาร์ ว่า ทางกูเกิลแมปจะเก็บข้อมูลจากผู้ใช้ต่าง ๆ และได้ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับถนนหนทางในแต่ละเส้น ว่ามันไปในทิศทางไหน รวมถึงขนาดของถนนว่าเป็นถนนสายหลัก หรือเป็นถนนสายเล็ก
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าถนนดินในทุ่งดังกล่าวไม่ได้มีการระบุว่าเป็นถนนส่วนบุคคล แต่เป็นถนนสาธารณะ ทางแอปจึงแนะนำเส้นทางนี้ให้กับผู้ใช้