บรรดาพ่อค้า แม่ค้า ในตลาดกว่า 500 กว่าคน เดินทางมายื่นหนังสือต่อศาลปกครองยะลา
ยะลา - 18 มิถุนายน 2562 นายสุริยัน เปียแก้ว อายุ 48 ปี 109 สิโรรส 4 อ.เมืองยะลาแกนนำพ่อค้า แม่ค้า ในตลาดสดเทศวิวัฒน์ 1 ตลาดพหุวัฒนธรรม 100 ปี ในเขตเทศบาลเมืองยะลา พร้อมด้วย บรรดาพ่อค้า แม่ค้า ในตลาดกว่า 500 กว่าคน ได้เช่ารถบัส และนำรถส่วนตัว เดินทางมายื่นหนังสือต่อ อธิบดีศาลปกครองศาลปกครองยะลา บ้านท่าสาป ต.ท่าสาป อ.เมืองยะลา
โดยเรียกร้องให้ทางเทศบาลเมืองปัตตานี ยินยอมให้พ่อค้าแม่ค้า ได้วางขายของให้เหมือนเดิม หลังจากเทศบาลเมืองปัตตานีประกาศให้หลังเดือนรอมฎอนที่ผ่านมาให้แม่ค้าพ่อค้าย้ายไปขายที่ตลาดเทศบาลแห่งใหม่ หน้ามัสยิดกลาง อ.เมืองปัตตานี
ซึ่งเป็นที่ส่วนบุคคลส่วนตัวของนายกเทศมนตรี เมืองปัตตานี เป็นทำเลที่ขายของไม่ดีและมีค่าเช่าสูงกว่าที่เก่า ที่มีการเก็บค่าเช่าในราคาแผงละ 20 บาทต่อวัน แต่ที่แห่งใหม่เก็บค่าเช่าวันละ 60 บาท ทำให้ได้นัดรวมตัวมายื่นหนังสือต่อ ศาลปกครองยะลาเพื่อขอความเป็นธรรมดังกล่าว
นายสุริยัน เปียแก้ว แกนนำพ่อค้าแม่ค้า เปิดเผยว่า ทั้งหมดรายชื่อ 400 กว่าแผง แต่เทศบาลเขาต้องการแค่ 150 แผง แล้วที่เหลือจะถามว่าแม่ค้าทั้งหมด 300 กว่าแผงไปอยู่ที่ไหน เพราะเขาต้องเลี้ยงดูลูกหลานเขา พี่น้องเขา ถ้าเกิดเทศบาลทิ้งเขาไปแล้วเขาจะอยู่อย่างไร เหมือนจะทำให้เกิดความแตกแยกกัน ถ้าเกิดไม่ดูแลตรงนี้ตนมองว่าจะเกิดปัญหาใหญ่ สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็มีปัญหาเยอะอยู่แล้ว ถ้าไม่ดูแลความสงบ ให้ความยุติธรรมปัญหาจะบานปลาย เขาจะขับไล่ออกจากพื้นที่ เขาเอาแค่ 150 แผง ได้ร้องเรียนมาหลายที่แล้ว
เริ่มแรกคือขอความเมตตาจากเทศบาลก่อน ไป 2 ครั้ง ทั้งส่งหนังสือ ทั้งเขาไปขอพบโดยตรงก็ไม่เคยได้ความอนุเคราะห์ ก็เลยที่ศูนย์ดำรงธรรมก็ไม่ได้ความอีก ไปทางนายกรัฐมนตรี เขาก็ส่งเรื่องกลับมาอีก ความตกลงไม่ลงรอยกันอีก ก็เลยมาที่ศาลปกครอง จังหวัดยะลา ตนมองทางทำไมทางเทศบาลไม่เข้าใจคำพูดของชาวบ้าน หรือว่าเขาต้องการเงื่อนไขอะไร พวกชาวบ้านลำบากถ้าเทศบาลทำแบบนี้ ไม่ใช่แค่ 1แผง 2 แผง ที่ลำบาก 400 กว่าแผงที่ลำบากหมด ถ้าไม่ดูแลตรงนี้ ไม่ให้ความสงบตรงนี้ อะไรจะเกิดขึ้น ขอร้อง ขอความเมตตา ขอความอนุเคราะห์ จากเทศบาลด้วย ให้ชาวบ้านทำมาหากินบ้าง ขอพื้นที่ให้ทำมาหากินบ้างอย่าโหดร้ายมากเกินไป
ด้านนางถนอมใจ แสงแก้ว อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61 หมู่ที่ 9 ต.โคกโพธิ์ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี แม่ค้าขายผัก เปิดเผยว่า ถ้าไปขายที่ทางเทศบาลจัดให้แล้วจะไปอยู่กับใคร คำว่าตลาดต้องมีทุกอย่างรวมกันแต่ทางเทศบาลไม่เข้าใจ เคยไปร้องเรียนในจังหวัดปัตตานีทุกหน่วยงาน ทุกสถานที่แต่ช่วยอะไรไม่ได้เลย เขาบอกว่านั้นคือเป็นสิทธิของเทศบาลเท่านั้นที่จะเป็นผู้ตัดสินใจ
แต่พ่อค้าแม่ค้ารับไม่ได้ที่ทางเทศบาลเสนอมา เคยไปร้องเรียนที่สำนักนายกรัฐมนตรีมาแล้วก็ไม่ได้ผล เขาจะส่งกลับมาที่จังหวัดปัตตานีแล้วเรื่องก็เงียบหายไป ไม่ว่าจะเป็นนายอำเภอ ผู้ว่า หน่วยงานใดๆก็แล้วแต่ที่เกี่ยวข้องคือเขาไม่รับเรื่อง ไม่ได้ทำอะไรให้เลย ปฏิเสธอย่าเดียวว่าเป็นเรื่องของเทศบาลเพราะเทศบาลมีหน้าที่รับผิดชอบ ถ้านายกเทศบาลเมืองปัตตานีมีใจกับคนจังหวัดปัตตานีที่เดือดร้อนกัน ทั้งแม่ค้า พ่อค้า ช่วยให้อยู่แบบรวมๆอยู่กันแบบทุกคนให้อยู่ด้วยกันอย่าแยกจากกัน
แม้ว่าจะเอาแม่ค้าผักเอาไว้โซนหนึ่งอีกที่หนึ่ง เอาแม่ค้าปลาไปไว้อีกที่หนึ่ง คือรับไม่ได้แบบนั้น คือทุกคนที่อยู่ด้วยกันต้องอยู่ด้วยกันไปไหนก็ไปด้วยกัน ถ้าเมื่อไหร่ที่เขาซ่อมเสร็จจะกลับก็คือจะกลับที่เดียวกัน ไม่ใช่เขาจะต้องแยกเอาแค่คนนั้นเอาแค่คนนี้ มาเจาะว่าคนนั้นต้องอยู่ได้ คนนี้อยู่ไม่ได้ เขาจะมาจัดระเบียบใหม่แบบต้องตามใจเขาคือไม่ใช่ คือตลาดไม่ใช่ซุปเปอร์มาร์เก็ต ไม่ใช่ห้าง