สาธารณสุข ยัน! บัตรพลังงานตรวจสอบแล้วไม่พบสารช่วยรักษาโรคหรือช่วยบำบัด บรรเทาอาการเจ็บป่วยได้
นายสมหวัง มหาวัง นายอำเภออุบลรัตน์ เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่บ้านศาลาดิน หมู่ 7 ต.ศรีสุขสำราญ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น เพื่อพูดคุยกับชาวบ้านที่ใช้บัตรพลังงาน ตามที่จังหวัดได้สั่งการมาเพื่อให้ตรวจสอบโดยได้ขอบัตรดังกล่าวส่งให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขตรวจสอบ รวมทั้งมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในฐานะพนักงานสอบสวนทำการตรวจสอบควบคู่กันไปด้วย
“ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขว่า ในการตรวจสอบบัตรพลังที่ชาวบ้านนำมาใช้รักษาโรคหรือบรรเทาการเจ็บป่วยนั้น ตรวจสอบแล้วไม่พบสารหรือสิ่งที่บ่งชี้ได้ว่ารักษาโรคหรือช่วยบำบัด บรรเทาอาการเจ็บป่วยได้ ซึ่งได้แจ้งไปยังผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ให้ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนในพื้นที่ได้ทราบข้อเท็จจริง ว่าบัตรดังกล่าวไม่สามารถรักษา บำบัดหรือบรรเทาการเจ็บป่วยได้ และเชื่อว่ายังคงมีประชาชนใช้อยู่ แต่ไม่กล้าแสดงตัว ซึ่งไม่อาจจะก้าวล่วงได้ เพราะเป็นความพึงพอใจของชาวบ้าน ทำได้เพียงแจ้งให้ทราบว่า บัตรที่ซื้อมานั้นไม่สามารถรักษาโรคได้” นายอำเภอ กล่าว
ทั้งนี้ นางวริศรา สร้อยโพธิ์ อายุ 52 ปี ผู้ใหญ่บ้าน บ้านหนองหญ้ารังกา หมู่ 7 ต.น้ำพอง บอกว่า นายสินธนู ได้มาขอใช้พื้นที่ศาลาประคมของหมู่บ้าน เพื่อเปิดตัวสินค้าบัตรพลังงานตามที่เป็นข่าวในขณะนี้ มีการนำรถขนชาวบ้านจากพื้นที่อื่นมาร่วมโปรโมทการใช้บัตรพลังงาน และโฆษณาชวนเชื่อว่าบัตรดังกล่าว รักษาโรคได้ ติดตู้เย็น ประหยัดไฟได้ ติดหม้อแปลงไฟฟ้า ประหยัดไฟ ติดฝาถังน้ำมันรถช่วยประหยัดน้ำมัน
ในวันเปิดงานตนถูกเชิญให้ไปเป็นประธานกล่าวเปิด จึงไปตามคำเชิญ ซึ่งเห็นว่าในวันดังกล่าว นายสินธนู นำบัตรพลังงานมาโฆษณาขายจำนวนหลายพันใบ จึงกล่าวเปิดงานให้พร้อมกับแนะนำชาวบ้านที่เข้าร่วมงานให้ใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อสินค้าดังกล่าว
นางวริศรา กล่าวต่ออีกว่า นายสินธนู มักจะเอาสินค้าขายตรงมาเดินขายในหมู่บ้าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาหารเสริม แต่ล่าสุดเห็นเป็นบัตรพลังงานที่มาโฆษณาขายให้กับชาวบ้านในวันดังกล่าว มีชาวบ้านหนองหญ้ารังกา มาร่วมงานเพียง 2-3 คน นอกนั้นเป็นคนถิ่นอื่นรวมถึงชาวบ้านในพื้นที่ อ.อุบลรัตน์ ด้วย สำหรับชาวบ้านหนองหญ้ารังกาที่ซื้อบัตรดังกล่าวไปคือ นางหนูกร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี เพราะป่วยเป็นโรคเบาหวาน ความดัน และปวดเมื่อยตามร่างกาย และเชื่อในคำโฆษณา
ล่าสุด นางหนูกร ได้เสียชีวิตลง ซึ่งเท่ากับว่าบัตรพลังงานไม่ได้ช่วยรักษา หรือบรรเทาอาการป่วยไข้ได้เลย กระทั่งมีข่าวทางสื่อมวลชนต่างๆ นานา ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อถือ และทำให้ทราบว่าบัตรพลังงามไม่ได้มีคุณสมบัตรใดๆ เลย จึงได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านได้ทราบข้อเท็จจริงทางหอกระจายข่าวไปแล้ว พร้อมทั้งเตือนว่าอย่าหลงเชื่อคำโฆษณาสินค้าดังกล่าว และคงต้องพูดคุยกับ นายสินธนู ว่าให้เลิกขายสินค้าดังกล่าว เพราะไม่เป็นผลดีต่อประชาชน