เด็กสาวบังกลาเทศถูกเผาทั้งเป็น หลังแจ้งความถูกอาจารย์ใหญ่ล่วงละเมิดทางเพศ เผยเจ็บช้ำหลายครั้ง
เด็กสาวบังกลาเทศถูกเผาทั้งเป็น หลังแจ้งความถูกอาจารย์ใหญ่ล่วงละเมิดทางเพศ เผยเจ็บช้ำหลายครั้ง ตอนแจ้งความก็โดนตำรวจอัดคลิป ก่อนตายพูดชัด ขอสู้จนลมหายใจสุดท้าย
ผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมทางเพศ มีอยู่ทั่วทุกมุมโลก และเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทุกวัน แต่การกล้าออกมาเปิดเผยความจริง หรือลุกขึ้นมาเรียกร้องความยุติธรรมให้กับตัวเองนั้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับเด็กสาวชาวบังกลาเทศ วัย 19 ปี ที่ชื่อ นูสรัต จาฮัน ราฟี โดยเธอกล้าตัดสินใจลุกขึ้นมาปกป้องสิทธิของตนเอง หลังจากตกเป็นเหยื่อล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความกล้าหาญเป็นอย่างยิ่ง เพราะชุมชนมองว่าเรื่องแบบนี้เป็นสิ่งน่าอาย
ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอหลังจากนั้น มันเลวร้ายอย่างที่เธอไม่คาดคิด นูสรัตถูกละเมิดซ้ำโดยกลุ่มคนที่ควรปกป้องรวมทั้งให้ความยุติธรรมแก่เธอ และสุดท้าย เธอถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอ สร้างความโกรธแค้น เจ็บปวด และสะเทือนใจไปทั่วประเทศ
จากการรายงานของสำนักข่าวบีบีซี เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2562 ระบุว่า นูสรัต อาศัยอยู่ที่เมืองเฟนี เมืองเล็ก ๆ ในเขตจิตตะกอง ทางตะวันออกเฉียงใต้ของบังกลาเทศ เธอเติบโตในครอบครัวชาวมุสลิมที่เคร่งครัด และเข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนสอนศาสนาอิสลามในพื้นที่ โดยในช่วงปลายเดือนมีนาคม อาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนเรียกเธอเข้าพบเป็นการส่วนตัวที่ห้องทำงาน และได้ล่วงละเมิดทางเพศเธอ เขาสัมผัสร่างกายเธออย่างไม่เหมาะสม และนูสรัตได้รีบวิ่งหนีออกมา ก่อนที่จะโดนกระทำไปมากกว่านั้น
โดยทั่วไปแล้ว เด็กผู้หญิงและหญิงสาวชาวบังกลาเทศที่ตกเป็นเหยื่อการล่วงละเมิดทางเพศ มักจะเก็บทุกอย่างไว้เป็นความลับ เนื่องจากกลัวว่าจะสร้างความอับอายให้ครอบครัว หรือตกเป็นที่ครหาจากสังคม นอกจากนี้แล้ว ชุมชนของเธอยังมองว่าเรื่องแบบนี้เป็นความผิดของผู้หญิงเอง แต่นูสรัตแตกต่างออกไป
นูสรัตตัดสินใจบอกพ่อแม่ทุกอย่างว่ามันเกิดอะไรขึ้น และครอบครัวของเธอก็พาเธอไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ เธอถูกนำตัวเข้าห้องสอบสวน ซึ่งเต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่ผู้ชาย พวกเขาไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยแม้แต่น้อย นูสรัตต้องย้อนเล่าเรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นทั้งน้ำตา ตำรวจยังอัดคลิปเธอเอาไว้ ห้ามไม่ให้เธอยกมือปิดหน้า และบอกกับเธอว่าสิ่งที่เกิดขึ้น "ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร"
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้จับกุมอาจารย์ใหญ่และควบคุมตัวเขามาสอบสวน มันดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับเหยื่อ แต่มันกลับตรงข้าม โดยชาวบ้านจำนวนมาก รวมทั้งนักเรียนชาย 2 คน จากโรงเรียนเดียวกับนูสรัต และนักการเมืองท้องถิ่น เดินทางมาประท้วงที่สถานีตำรวจ เรียกร้องให้ปล่อยตัวอาจารย์ใหญ่ พร้อมกับกล่าวโทษนูสรัตว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นคือความผิดของเธอ สร้างความกังวลให้แก่ครอบครัวของนูสรัตเป็นอย่างมาก เพราะพวกเขากลัวว่าเธอจะได้รับอันตราย
กระทั่งวันที่ 4 เมษายน ที่ผ่านมา หรือ 11 วัน หลังจากเกิดเหตุ นูสรัตได้เดินทางไปโรงเรียนเพื่อสอบปลายภาค โดยมี มาห์มูดุล พี่ชาย เดินทางไปส่ง เขาพยายามเข้าไปเฝ้าดูแลน้องสาวในโรงเรียน แต่ถูกกีดกันเอาไว้ด้านนอก และสิ่งที่เขากลัวก็เกิดขึ้น โดยมาห์มูดุลร้องไห้แทบขาดใจ หลังรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นกับน้องสาว และโทษตัวเองว่า ถ้าหากเขาดึงดันตามน้องไป มันก็คงไม่เกิดเรื่องขึ้น
โดยเพื่อนนักเรียนหญิงคนหนึ่งบอกให้นูสรัตขึ้นไปที่ดาดฟ้าของโรงเรียน อ้างว่าเพื่อนสนิทของเธอถูกทำร้าย แต่เมื่อถูกพาไปข้างบนแล้ว กลับไม่มีร่องรอยเพื่อนของเธอ มีแต่ผู้หญิง 5 คน สวมผ้าคลุมบูร์กาปิดใบหน้าทั้งหมด คนกลุ่มนี้เข้ามารุมล้อมนูสรัตและสั่งให้เธอถอนการแจ้งความอาจารย์ใหญ่ แต่นูสรัตปฏิเสธ
คนกลุ่มนี้จึงราดน้ำมันก๊าดลงบนร่างของเธอ แล้วจุดไฟเผาเธอทั้งเป็น กลุ่มผู้ก่อเหตุตั้งใจจัดฉากให้เหมือนกับว่านูสรัตฆ่าตัวตายเอง แต่ผิดแผน นูสรัตได้รับการช่วยเหลือออกมาได้ เด็กสาวได้รับบาดเจ็บสาหัสรุนแรงมาก มีแผลไฟคลอกทั่วทั้งตัวประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ยกเว้นที่ศีรษะและใบหน้า เนื่องจากหนึ่งในผู้ก่อเหตุใช้มือกดหัวเธอไว้ไม่ให้ดิ้น
แพทย์โรงพยาบาลท้องถิ่นเล็งเห็นว่าพวกเขาไม่สามารถรักษานูสรัตได้ จึงได้ทำเรื่องส่งตัวเธอไปยังโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยธากา ในกรุงธากา เมืองหลวงของบังกลาเทศ โดยในขณะที่นูสรัตอยู่ในรถพยาบาล เธอรู้ว่าตัวเองคงไม่มีทางรอดชีวิต และอาจไม่รอดระหว่างทาง เธอจึงใช้โทรศัพท์มือถืออัดคลิปบอกเล่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น ทั้งการถูกล่วงละเมิดทางเพศ รวมทั้งบอกว่าเธอจำได้ว่าหนึ่งในผู้ก่อเหตุเผาเธอคือใคร และเธอทิ้งท้ายไว้ว่า "ฉันจะต่อสู้กับอาชญากรรมนี้ จนกระทั่งลมหายใจสุดท้ายของฉัน" ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานเธอก็สิ้นใจ
ข่าวการเสียชีวิตของนูสรัตกลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วประเทศ ประชาชนนับพันนับหมื่นคนออกมาเดินขบวนประท้วงเรียกร้องความเป็นธรรมให้เด็กสาวผู้เสียชีวิต และผู้คนนับหมื่นก็ช่วยกันเคลื่อนแห่ศพนูสรัตกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิด
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจบังกลาเทศได้จับกุมผู้ต้องหา 15 คน ประกอบด้วย กลุ่มคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรม 7 คน นักเรียนและนักการเมืองที่นำประท้วง รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อัดคลิปการสอบปากคำนูสรัตด้วยเช่นกัน
ทางด้าน นางชีค ฮาสินา นายกรัฐมนตรีบังกลาเทศ ได้เดินทางเข้าพบครอบครัวของนูสรัตแล้ว พร้อมให้คำสัญญาว่าลูกสาวของพวกเขาจะต้องได้รับความเป็นธรรม และทุกคนที่เกี่ยวข้องจะต้องถูกลากตัวมาลงโทษ
คุณอาจกำลังสนใจสิ่งนี้
- บรูไนแจง! ก.ม.ปาหินเกย์ มีไว้เพื่อ ป้องกันมากกว่าลงโทษ
- พยาบาลสาวหื่น ข่มขืนคนไข้ชราสมองเสื่อม ปฏิเสธเสียงแข็ง แม้ถูกจับได้ทั้งแก้ผ้า
- เตือนคนไทยไปบรูไน กฎหมายซารีอะห์ ปาหินประหารเกย์-ตัดมือโจร คนต่างชาติก็โดน!
- สุดสะเทือนใจ!! พี่เลี้ยงโทรไปหาแม่เด็ก เปิดลำโพงให้ได้ยินเสียงสุดท้ายของลูก ร้องจนขาดใจ
- ฉาวอีก! หนุ่มไทยขืนใจแหม่มบนเกาะพีพี เห็นเมาหลับ เอาคัตเตอร์กรีดเป้ากางเกง
ที่มา kapook