วันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคมนี้ เป็นวันที่ประชาคมไทยทั้งประเทศจะได้พบกับความเปลี่ยนแปลงทางด้านการเมืองการปกครองครั้งแรกในรอบ 5 ปี
วันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคมนี้ เป็นวันที่ประชาคมไทยทั้งประเทศจะได้พบกับความเปลี่ยนแปลงทางด้านการเมืองการปกครองครั้งแรกในรอบ 5 ปี
การเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งนี้ คนไทยจะต้องใช้วิจารณญาณอย่างมาก เนื่องจากมีพรรคการเมืองมากถึง 101 พรรค และยังมีผู้สมัคร ส.ส. ในแต่ละเขตมากเกือบ 30 เบอร์ ซึ่งอาจสร้างความสับสนได้ไม่น้อย
แต่ในฐานะมุสลิมผู้ศรัทธาในอัลลอฮ์ผู้ทรงมีพระเมตตาปราณีต่อบ่าวของพระองค์อย่างคณานับ เราควรมีวิจารณญาณเป็นพิเศษมากกว่าทุกครั้ง
ประการแรก เราควรส่งเสริมให้ผู้แทนฯ ที่เป็นมุสลิมมีจํานวนมากขึ้นตาม จํานวนประชากรมุสลิมไทยที่มากถึงเกือบ 10 ล้านคน หรือเกือบ 15% ของประชากร ทั้งประเทศ หากเขตใดมีมุสลิมที่ดีมีประวัติดี มีผลงานในอดีตที่ดีเป็นเกียรติประวัติ ก็ควรเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าผู้สมัครที่ไม่สามารถเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ในอัตตลักษณ์ความเป็นมุสลิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้านําเอาปัจจัยทรัพย์สินมาซื้อสิทธิ์ขายเสียงยิ่งอันตรายต่อสังคมมุสลิมเป็นอย่างมาก
ประการสําคัญ หากพี่น้องมุสลิมกลับปฏิเสธผู้สมัคร ส.ส. ที่เป็นมุสลิม แล้วบอกว่าเลือกมุสลิมแล้วจะไม่มีใครมาดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายและเรื่องสวัสดิการของครอบครัวมุสลิมได้ดีเท่าผู้สมัครที่นําทรัพย์สินมาให้ ก็เท่ากับว่า เราจะเป็นมุสลิมที่ไม่ได้ฝากความโปรดปราณไว้กับอัลลอฮ์ แต่กลับฝากความหวังริสกีต่าง ๆ ไว้กับมนุษย์ที่ไม่ปรารถนาดีกับมุสลิมอย่างแท้จริง แล้วเราจะเอาศักดิ์ศรีมุสลิมไปไว้ที่ไหน เป็นเรื่องที่มุสลิมเราต้องตระหนักให้มากว่าเราจะเลือกผู้แทนแบบไหนจึงจะเป็นศักดิ์เป็นศรีของประชาคมมุสลิมไทย
"ในบ้านเมืองนั้นมีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครทําทุกคนให้เป็นคนดีได้ทั้งหมด การทําให้บ้านเมืองมีความปกติสุขเรียบร้อยจึงไม่ใช่อยู่ที่การทําให้ทุกคนเป็นคนดี หากอยู่ที่การส่งเสริมคนดีได้ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้ "
พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่ 9 ก็ยังคงเป็นอมตะอยู่เสมอตลอดกาล
"วัสลาม"