อุตตม ย้ำ คนไทยต้องรวยความสงบ ความสุข และความหวัง พร้อม อนุชา ลั่น หากพปชร ได้เป็นแกนนำแล้วคนไทยยังลืมตาอ้าปากไม่ได้ เลิกเล่นการเมืองทันที
อุตตม ย้ำ คนไทยต้องรวยความสงบ ความสุข และความหวัง พร้อม อนุชา ลั่น หากพปชร. ได้เป็นแกนนำแล้วคนไทยยังลืมตาอ้าปากไม่ได้ เลิกเล่นการเมืองทันที
ที่ สนามกีฬา อบจ.นราธิวาส จ.นราธิวาส แกนนำพรรคพลังประชารัฐ นำโดย นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายอนุชา นาคาศัย ประธานยุทธศาสตร์ภาคกลาง ร่วมปราศรัยหาเสียงช่วย ผู้สมัคร 11 เขต จาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีประชาชนเข้าร่วมฟังอย่างเนืองแน่น
- “ลุงตู่” ฝากคลิปถึง พี่น้อง 3 จชต.พูดยาวีอ้อน “อย่าลืมเรา”
- พลังประชารัฐ ปราศรัยใหญ่ สนามกีฬากลาง นราธิวาส
โดย นายอุตตม ขึ้นกล่าวปราศรัย ขอบคุณ พี่น้องชาว 3 จังหวัดชายแดนใต้ ที่มารับฟังกันมาก พรรคพลังประชารัฐ แม้เป็นพรรคน้องใหม่ แต่วันนี้แสดงให้เห็นว่าได้รับความจริงใจและเป็นที่รู้จัก ซึ่งห้วงเวลานี้ที่ใกล้ถึงวันเลือกตั้ง ถือว่ามีความสำคัญ เป็นการกำหนดอนาคตประเทศไทย เนื่องจาก 10 ปีที่ผ่านมาเกิดความขัดแย้ง เอาประชาชนมาเป็นตัวประกัน ดังนั้นพรรคพลังประชารัฐจึงเสนอตัวเข้ามาเป็นทางเลือกให้กับประชาชนที่จะก้าวข้ามความขัดแย้งไม่กลับไปวังวนเดิมอีก การเมืองต้องไม่อยู่เหนือกว่าประชาชน และถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ อีกทั้ง ขณะนี้เป็นที่จับตาของนานาชาติว่าคนไทยจะเลือกอนาคตอย่างไร
นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
นายอุตตม ยังระบุว่า ปัจจุบันพี่น้องคนไทยยัง มีความยากจนและมีความเหลื่อมล้ำ ดังนั้น คนไทยต้องรวยด้วยความสงบ ความสุข และรวยด้วยความหวัง พรรคพลังประชารัฐไม่มีข้อขัดแย้งกับใครแต่จะนำพาความสงบมาให้ประเทศจะต้องมีความสุขที่ยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ พร้อมกันนี้ได้นำเสนอนโยบาย บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่จะ เพิ่มสิทธิบัตร ให้ครอบคลุมมากขึ้น เพื่อช่วยเหลือประชาชนในการจับจ่ายใช้สอย รวมถึงนโยบายมารดาประชารัฐ ที่จะให้การดูแลตั้งแต่ตั้งครรภ์จนถึงคลอดและดูแลต่อไปอีก 6 ปี นอกจากนี้ เด็กจะต้องมีทักษะ ด้วยการสร้างระบบการศึกษาใหม่ ในเชิงปฏิบัติเพื่อที่สามารถสร้างโอกาสในอนาคต และมีงานทำ ขณะเดียวกันก็จะมีนโยบายผู้สูงวัยที่จะปรับเบี้ยผู้สูงอายุและทุกพื้นที่จะให้มีโรงเรียนผู้สูงวัย เพื่อให้มีโอกาสพบปะกัน ไม่รู้สึกเหงาหรือถูกทอดทิ้ง ซึ่งจะมีบุคคลากรเข้าไปดูแล ใกล้ชิด ส่วนการเกษตรต้องเป็นเกษตรที่ยั่งยืน ซึ่งพรรคจะ ดูแลตั้งแต่เริ่มการเพาะปลูก การเก็บเกี่ยว การเพิ่มมูลค่าด้วยการแปรรูป และดูแลการตลาด เช่น ยางพารา ควรจะมีราคาเป้าหมายอยู่ที่ 65 บาท รวมไปถึงแนวทางการเกษตรก็จะต้องสอดรับกับการท่องเที่ยวและวิถีชีวิต โดยเฉพาะในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ย้ำว่า ทุกอย่างจะทำอย่างต่อเนื่อง และทำทันที หากได้รับความไว้วางใจเข้าไปทำงานเพราะหลายนโยบายได้เริ่มทำแล้ว พร้อมขอพี่น้อง 3 จังหวัดใต้ได้สนับสนุนผู้แทนทั้ง 11 เขตได้มีโอกาสเข้าไปพิสูจน์ตัวเองและมีผู้นำอย่างพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา นำพาประเทศก้าวข้ามความขัดแย้ง
นายอนุชา นาคาศัย ประธานยุทธศาสตร์ภาคกลาง พรรคพลังประชารัฐ
ด้านนายอนุชา กล่าวว่า ตนเองได้เคยถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี จนวันนี้เพิ่งได้ลงเลือกตั้งใหม่ ตนเองจึงไม่อยากเห็นคนไทยสู้รบกัน จึงได้เข้าร่วมอุดมการณ์ด้วยกันในนามพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งพรรคได้มีปณิธานแน่วแน่ว่าประเทศไทยต้องรวยด้วยพลังประชารัฐมีเศรษฐกิจ ความเป็นอยู่ดีขึ้น และพร้อมที่จะดูแลเกษตรกร ชาวประมง ดูแลพี่น้องที่ทำธุรกิจพื้นบ้าน ดังนั้น คนไทย ทุกคนต้องร่วมอุดมการร่วมกันเพื่อให้สิ่งต่างๆเกิดขึ้นในอนาคต พร้อมย้ำว่าหากพรรคพลังประชารัฐได้เป็นแกนนำรัฐบาลแล้วไม่สามารถทำให้พี่น้องประชาชนลืมตาอ้าปากได้ตนเองจะเลิกเล่นการเมืองและขอสัญญากับพี่น้อง 3 จังหวัดใช้แดนใต้และคนไทยทั้งประเทศ จะร่วม อุดมการสร้างความเจริญให้ประเทศ
จากเพจ: พรรคพลังประชารัฐ