ชีวิตไม่มีอะไรแน่นอน พวกเราไม่วันรู้เลยว่าสิ่งที่ไม่คาดคิดหรือพรุ่งนี้อะไรจะมาก่อนกัน สิ่งที่ทำได้คือมีความสุขกับปัจจุบัน
ชีวิตไม่มีอะไรแน่นอน พวกเราไม่วันรู้เลยว่าสิ่งที่ไม่คาดคิดหรือพรุ่งนี้อะไรจะมาก่อนกัน สิ่งที่ทำได้คือมีความสุขกับปัจจุบัน และให้ความสำคัญกับคนที่อยู่ข้างๆกาย โดยเฉพาะครอบครัวที่ คุณรัก อย่ารอจนสูญเสียแล้วค่อยเรียนรู้ที่จะหวงแหน อ่านเรื่องนี้จบแล้วคุณจะเข้าใจ
Namrata และ Bhavesh Pandya เป็นสองสามีภรรยาชาวอินเดียที่มี Khushil ลูกชายวัย 14 ปีที่อยากเป็นนักสัตววิทยา สองสามีภรรยารักลูกชายคนเดียวมาก แต่วันเวลาดีๆ
ก็อยู่กับพวกเขาได้ไม่นาน ปี 2015 Khushil ต้องไปพบแพทย์เพราะเขารู้สึกว่ามองอะไรไม่ค่อยชัด
นึกไม่ถึงว่าวันนั้นจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของจุดจบ ขณะทำการทดสอบด้วยแสงพบว่าดวงตาซ้ายของ Khushil ลืมไม่ขึ้น จึงถูกส่งไปหาแผนกดวงตา ต่อมาถูกส่งตัวไปทำ MRI ที่โรง พยาบาลที่ใหญ่ขึ้น และผลที่ได้ก็เหมือนฟ้าถล่มลงมาตรงหน้า
คุณหมอเรียกสองสามีภรรยาเข้าไปในห้อง ปล่อยให้ Khushil คุยกับพยาบาลอยู่ด้านนอก คุณหมอถามคำถามพวกเขาประโยคเดียวว่า : “Khushil เป็นลูกชายคนเดียวของพวกคุณ ใช่ไหม” ได้ยินอย่างนี้ Namrata ก็ใจคอไม่ดี คุณหมอบอกว่าหลังการยืนยันผลการตรวจซ้ำไปมาหลายครั้ง พบว่ามีเนื้องอกชนิดร้ายอยู่ในสมองของ Khushil หรือเรียกอีกอย่างก็คือมะเร็ง Khushil เป็นเนื้องอกในสมอง diffuse pons glioma (DIPG) ที่พบได้ยาก ไม่มีวิธีการรักษา สุดท้ายคุณหมอก็ทิ้งท้ายไว้ว่า : “น่าจะ 6-9 เดือน”
สองสามีภรรยาจะรับเรื่องนี้ได้ยังไง? พวกเขาเก็บกดความทุกข์ใจ และตัดสินใจว่าจะไม่ให้ Khushil รู้ว่าตัวเองป่วย เพื่อให้เขาใช้ชีวิตที่เหลืออย่างไม่ต้องกังวล พยายามที่จะเป็นนัก สัตววิทยาต่อไป พวกเขาและ Khushil ร่วมกันตั้งเป้าหมายที่จะต้องทำให้สำเร็จทีละอย่าง
ทั้งครอบครัวเดินทางไปท่องเที่ยวด้วยกัน หลัง 6 เดือนผ่านไป Khushil ยังมีชีวิตอยู่ ตอนนั้นพวกเขาคิดว่า “นับจากนี้ไปถือเป็นช่วงเวลาที่ขอยืมจากพระเจ้า”
ไม่นานนักอาการของ Khushil ก็เริ่มแย่ลง การทำ MRI แสดงให้เห็นว่าก้อนเนื้อของเขาโตขึ้น ขาขวาไร้เรี่ยวแรง พูดไม่ชัด กลืนลำบากและปัญหาอื่น ๆ ดูเหมือน Khushil จะรู้ว่าตัว เองมีเวลาอีกไม่นาน เขาบอกกับแม่ว่า “ผมไม่อยากตายในโรงพยาบาล ผมอยากกลับบ้าน” และในที่สุดก็ไม่สามารถยื้อชีวิตได้อีกต่อไป เขาจากไปในเดือนกันยายน ปี 2017
หลัง Khushil จากไป ตอนที่พ่อแม่กำลังเก็บข้าวของของเขาก็พบไดอารี่โดยบังเอิญ เมื่อเปิดออกดูก็ต้องน้ำตานอง Khushil เขียนไว้ประโยคหนึ่งว่า “ตั้งแต่เริ่มต้น ผมก็รู้ผลลัพธ์แล้ว” มันเริ่มต้นตั้งแต่ที่เขาถูกวินิจฉัยเมื่อปี 2015 นึกไม่ถึงว่าสิ่งที่พ่อแม่พยายามทำเพื่อปกป้องเขาโดยการปิดบังเรื่องโรคร้าย
เขากลับรู้มาตั้งแต่แรก ในเวลาที่ผ่านมาพ่อแม่แสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไร Khushil ก็ไม่พูดอะไร เพราะเขาไม่อยากให้พ่อแม่เจ็บปวด
Namrata เล่าว่า : “พวกเราคิดว่าพวกเรากำลังปกป้องเค้า นึกไม่ถึงว่าเป็นเขาต่างหากที่ปกป้องไม่ให้พวกเราเจ็บปวด”
คุณอาจกำลังสนใจสิ่งนี้
- หมอรามา เตือน!! “เด็กเล็ก” เสี่ยงสูดฝุ่นพิษมากกว่าผู้ใหญ่ “คนท้อง” อาจทำให้ลูกเติบโตช้า
- กยศ. เริ่มหักเงินเดือนลูกหนี้ ก.พ.นี้ 1.6 แสนราย
- แม่ให้ลูกกินแคลเซียมเสริม หวังให้โตมาสูง ตั้งแต่อายุ 10 วันสุดท้ายไตพัง
- น้องโปรด ชื่ออิสลาม ประวัติ ส่องโมเมนต์น่ารักกับน้องปาลิน
- แม่โพสต์เตือน ลูกสาว ไปว่ายน้ำ แต่ สมองกลับถูกกิน จนไม่เหลืออะไร เรื่องจริงยิ่งกว่าในหนัง
ที่มา liekr