กรมอนามัยประกาศลูกน้ำหรือตัวโม่ง ยุงลาย ถือเป็นเหตุรำคาญ ร่วมรณรงค์ให้ประชาชนช่วยกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลดการระบาด
กรมอนามัยประกาศลูกน้ำหรือตัวโม่ง ยุงลาย ถือเป็นเหตุรำคาญ ร่วมรณรงค์ให้ประชาชนช่วยกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลดการระบาด หากฝ่าฝืนระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 25,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. นพ.ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยแนวทางการควบคุมแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขจากสถานการณ์การระบาดของโรคไข้เลือดออกที่รุนแรงในขณะนี้เป็นปัญหาสาธารณสุขที่ต้องป้องกันเฝ้าระวังอย่างเข้มแข็งและพร้อมเร่งกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในภาชนะหรือเศษวัสดุที่มีน้ำขัง โดยผลทางกฎหมาย ที่กำหนดให้แหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายเป็นเหตุรำคาญ ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่น เจ้าพนักงานสาธารณสุขและผู้ได้รับการแต่งตั้งจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น เฝ้าระวังโรคและควบคุมแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในเขตท้องที่ที่รับผิดชอบ หากพบว่าอาคารหรือสถานที่ใดของเอกชนมีแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นหรือเจ้าพนักงานสาธารณสุข หรือผู้ได้รับการแต่งตั้งจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น แจ้งหรือแนะนำให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองแหล่งนั้นปรับปรุงแก้ไขภายในระยะเวลาตามสมควร
อย่างไรก็ตามหากเจ้าของหรือผู้ครอบครองไม่ปรับปรุงแก้ไขตามคำแนะนำภายในกำหนดเวลา ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นออกคำสั่งเป็นหนังสือตามมาตรา 28 ให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารนั้น ปรับปรุงแก้ไขภายในระยะเวลาตามสมควร หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามจะมีความผิดตามมาตรา 74 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 25,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นพ.ดนัย กล่าวต่อไปว่า กรณีที่ตรวจพบแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในที่หรือทางสาธารณะ เจ้าพนักงานท้องถิ่นสามารถดำเนินการได้ทันที หากทราบว่าแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายนั้นเกิดจากการกระทำของบุคคลใดให้ออกคำสั่งตามมาตรา 27 ให้บุคคลนั้นปรับปรุงแก้ไขภายในระยะเวลาที่กำหนด หากไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ให้ท้องถิ่นสั่งการให้ดำเนินการลงโทษตามมาตรา 85 แต่หากไม่ปรากฏว่าเกิดจากบุคคลใดให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นสั่งการให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของท้องถิ่นดำเนินการทำลายแหล่งเพาะพันธุ์นั้นได้โดยการถม ระบายน้ำทิ้ง คว่ำ หรือใส่สารเคมีกำจัดลูกน้ำ แล้วแต่กรณีที่เหมาะสม ส่วนกรณีที่เป็นอาคารรกร้างว่างเปล่า หรือก่อสร้างไม่เสร็จ โดยไม่ปรากฏเจ้าของชัดเจนและเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ให้ราชการส่วนท้องถิ่นดำเนินการทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายนั้นได้
ทั้งนี้ วิธีป้องกันตนเองจากการโดนยุงกัดและการจัดการสิ่งแวดล้อมภายในบ้านและบริเวณบ้าน เพื่อป้องกันการเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง ทุกคนสามารถทำได้ด้วยการกำจัดเศษขยะและคว่ำภาชนะที่มีน้ำขัง เช่น เศษขยะพลาสติก ยางรถยนต์เก่า เศษกระถาง เป็นต้น ทำความสะอาดและเก็บบ้านให้สะอาด ไม่ให้มีมุมอับทึบ เปลี่ยนถ่ายน้ำในภาชนะที่กักเก็บน้ำทุกสัปดาห์ เช่น แจกัน น้ำพุเทียม กระถางต้นไม้ เป็นต้น เพื่อทำลายแหล่งที่อยู่อาศัยของยุง รวมถึงใช้ทรายอะเบทกำจัดลูกน้ำยุง และใส่เกลือหรือน้ำส้มสายชูในจานรองขาตู้กับข้าว เพื่อตัดวงจรการเจริญเติบโตของยุง
ที่สำคัญต้องปกปิดภาชนะเก็บน้ำภายในบ้านให้มิดชิด เพื่อป้องกันยุงลายเข้าไปวางไข่ ติดตั้งตาข่ายหรือมุ้งลวดประตูและหน้าต่างเพื่อกันยุง หากในบ้านมีเด็กเล็กต้องกางมุ้งครอบเตียงของเด็ก นอกจากนี้ หากจำเป็นต้องใช้สารเคมีกำจัดยุงต้องอ่านฉลากผลิตภัณฑ์ให้เข้าใจและปฏิบัติตาม เพื่อลดการเกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของคนในครอบครัว รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว
คุณอาจกำลังสนใจสิ่งนี้
- เตือน! 'ไข้เลือดออก'ระบาดหนัก ตายแล้ว30ราย
- โบว์ แวนดา เปิดใจ! วินาทีสุดท้าย ที่ได้บอกรัก ปอ ก่อนจากลา
- ยุง ร้ายกว่า ยาบ้า ?
- ระบาดหนัก!! โรคชิคุนกุนยา โรคติดต่อที่มากับยุง เตือนพ่อแม่ให้ระวังลูกน้อยในช่วงนี้!!
- ด่วน!! 'ไข้เหลือง' สังเวยชีวิต 37 ศพในแองโกลา
ที่มา posttoday