จากเหตุ โรงงานกิ่งแก้วระเบิด หลายฝ่ายกังวลถึง สารก่อมะเร็ง ที่ฟุ้งในอากาศเสี่ยงก่อมะเร็ง นำมาซึ่งข้อเสนอในการป้องกันอันตรายจากสารเคมี
โรงงานผลิตโฟมของบริษัท หมิงตี้เคมีคอล จำกัด ที่ตั้งอยู่บนถนนกิ่งแก้ว ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ทางทิศตะวันตกของสนามบินสุวรรณภูมิ ที่มีสารเคมีอันตรายชื่อ สไตรีนมอนอเมอร์ เก็บอยู่ปริมาณมาก เกิดระเบิดขึ้น ซึ่งมีรายงานความเสียหายต่อทรัพย์สินและชีวิตขึ้นแล้ว ขณะกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ก็เตือนว่าอย่าสูดดมควันจากโรงงานแห่งนี้ เพราะสารดังกล่าวอันตรายและอาจก่อมะเร็งได้
รศ. ดร.กิติกร จามรดุสิต ศูนย์วิจัยและฝึกอบรมนิเวศวิทยาอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยมหิดล หัวหน้าโครงการวิจัย การศึกษา และวิเคราะห์เชิงระบบของอุตสาหกรรมเชิงนิเวศน์ที่มีผลต่อการหนุนเสริมโมเดลเศรษฐกิจ BCG ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) สังกัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เปิดเผยถึงการระเบิดรุนแรงภายใน บริษัท หมิงตี้เคมิคอล จำกัด ย่านกิ่งแก้ว จังหวัดสมุทรปราการ
ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเม็ดพลาสติกและพลาสติกขั้นต้นของประเทศจีน ที่เข้ามาก่อตั้งในประเทศไทยนานกว่า 30 ปี เมื่อกลางดึกวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็วขยายวงกว้าง ทำให้ต้องมีการอพยพประชาชนผู้ที่อยู่อาศัยในรัศมี 5 กิโลเมตรออกจากพื้นที่ เพราะเกรงว่าจะได้รับอันตรายจากสารเคมี ว่าเป็นเหตุการณ์ที่น่าตกใจมากและจำเป็นต้องมีมาตรการป้องกันสารเคมีอันตรายและมาตรการฉุกเฉินในระยะยาว
สไตรีนมอนอเมอร์ สารก่อมะเร็ง
ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์ตามข้อมูลพื้นฐาน สามารถสรุปสถานการณ์เพื่อป้องกันเบื้องต้นได้ว่า สถานที่เกิดเหตุเป็นโรงงานผลิตโฟมพลาสติกประเภทสไตรีน โดยสารตั้งต้นที่ใช้ในการผลิต คือ สไตรีนมอนอเมอร์ มอนอเมอร์เป็นชื่อเรียกของสารตั้งต้นโมเลกุลเล็กที่นำมาใช้สังเคราะห์ต่อเนื่องให้เป็นโมเลกุลใหญ่ขึ้นจนได้เป็นพอลิเมอร์หรือพลาสติก สารสไตรีนมีโครงสร้างหลักของโมเลกุลเป็นตัวเบนซีน
ซึ่งเป็นไฮโดรคาร์บอนประเภทวงแหวน 6 เหลี่ยม จัดเป็น สารก่อมะเร็ง และสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย ซึ่งตามข้อกำหนดแล้วต้องมีเฉลี่ยในชั้นบรรยากาศได้ไม่เกิน 1.7 ไมโครกรัมต่อปริมาตรอากาศ 1 ลูกบาศก์เมตร ค่าเฝ้าระวัง 24 ชั่วโมงไม่เกิน 7.6 ไมโครกรัมต่อปริมาตรอากาศ 1 ลูกบาศก์เมตร
เมื่อเกิดระเบิดแล้วมีการเผาไหม้ สารเคมีเหล่านี้ จึงเกิดการเผาไหม้แบบไม่สมบูรณ์ สังเกตได้จากควันไฟสีดำและสีเทา โดยการเผาไหม้ของไฮโดรคาร์บอนทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนมอนอออกไซด์ ซึ่งปนกับสารที่เป็นสารอินทรีย์ระเหยง่าย เมื่อสูดดมเข้าไปจะหมดสติ วิงเวียนศีรษะ และหากสูดดมสไตรีนกับเบนซีน จะเกิดการระคายเคืองระบบหายใจ และก่อมะเร็ง
สิ่งกังวล ผลกระทบระยะสั้น ที่เห็นชัดเจน คือ การสูดดมเป็นปัญหา หน้ากากอนามัยที่ใช้ป้องกันโควิด-19 ไม่สามารถป้องกันได้ เพราะเป็นสารอินทรีย์ระเหยง่าย ต้องอาศัยหน้ากากที่ป้องกันสารอินทรีย์แต่จะปกคลุมอยู่นานแค่ไหนก็ต้องอาศัยโชคช่วยในเรื่องของลม ความชื้น และฝน หากฝนตกก็จะช่วยให้ลดในส่วนของควันก๊าซ
แต่ก็จะ ส่งผลต่อในระยะยาว กล่าวคือ หากสัมผัสกับความชื้นในอากาศ หรือมีฝนตก ก๊าซที่ลอยอยู่ในอากาศและสารตกค้างเหล่านี้จะตกลงสู่พื้นดินกระจายวงกว้างและส่งผลกระทบต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมโดยรอบ เกิดการปนเปื้อนทั้งต้นไม้ แหล่งน้ำผิวดิน และไหลซึมลงแหล่งน้ำใต้ดินได้ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องวางแผนการบริหารจัดการไม่ให้ส่งผลกระทบในระยะยาว รวมถึงต้องมีแผนการบริหารจัดการกู้คืนสถานการณ์ในระยะยาว