วัคซีนโควิดโมเดอร์นา (Moderna COVID-19 Vaccine) เป็นวัคซีน ชนิด mRNA ซึ่งเป็นสารพันธุกรรม
วัคซีนโควิดโมเดอร์นา (Moderna COVID-19 Vaccine) เป็นวัคซีน ชนิด mRNA ซึ่งเป็นสารพันธุกรรมสังเคราะห์ขึ้นได้ในห้องปฎิบัติการ มีชื่อตามที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐอเมริกา (Centers for disease control: CDC) ระบุไว้คือ mRNA-1273
วัคซีน Moderna เป็นวัคซีนที่คิดค้นโดยบริษัทผู้ผลิตยาสัญชาติอเมริกัน ชื่อบริษัทโมเดอร์นา (Moderna) และถือเป็นวัคซีนตัวที่ 2 ที่รับอนุมัติตามมาตรการฉุกเฉินจากองค์การอาหารและยาสหรัฐ (Food and drug administration: FDA) ตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม 2563 ซึ่งวัคซีนชนิดแรกที่ได้รับการอนุมัติคือวัคซีนโควิดไฟเซอร์ (Pfizer)
วัคซีน Moderna จะมีส่วนช่วยให้ร่างกายสร้างโปรตีนที่เฉพาะเจาะจงกับไวรัสขึ้นมา และกระตุ้นให้ร่างกายสร้างแอนติบอดี้ (Antibodies) แอนติบอดี้นี้จะรับรู้ได้เมื่อมีไวรัสเข้าสู่ร่างกาย จึงทำลายไวรัสได้ในที่สุด
แม้หลังจากมีการฉีดให้กับผู้ที่อายุ 18 ปีขึ้นไปแล้ว และพบว่ามีความปลอดภัย แต่หน่วยงานป้องกันโรคติดต่อสหรัฐอเมริกา (Centers for Disease Control: CDC) ก็ยังคงติดตามความเคลื่อนไหวของวัคซีนอย่างต่อเนื่อง
วัคซีน Moderna มีประสิทธิภาพแค่ไหน?
วัคซีน Moderna อาจมีประสิทธิภาพในการป้องกันโควิด 19 อยู่ที่ประมาณ 92% โดยมีรายละเอียดแยกย่อย ดังนี้
หลังจากฉีดเข็มแรกไปแล้ว 14 วัน จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันประมาณ 50.8%
หลังจากฉีดเข็มที่ 2 ไปแล้วประมาณ 2 สัปดาห์ จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันได้ประมาณ 92.1%
อย่างไรก็ตาม แม้วัคซีน Moderna จะสามารถสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาอยู่ได้หลายเดือน แต่ ณ ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าภูมิคุ้มกันนี้จะอยู่ได้นานแค่ไหน หรือผู้ที่รับเชื้อสามารถแพร่กระจายต่อได้หรือไม่
รวมถึงประสิทธิภาพที่ได้จากกลุ่มทดลอง อาจมีความแตกต่างกับการฉีดให้กับประชากรจริงที่อยู่เหนือขอบเขตการทดลองเนื่องจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น ความหลากหลายของเชื้อไวรัส
ดังนั้นแม้จะรับวัคซีน Moderna ไปแล้ว ก็ยังคงต้องสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ รักษาระยะห่าง หากจำเป็นต้องอยู่ในพื้นที่จำกัดกันหลายคน ควรหาช่องทางระบายอากาศเพื่อลดโอกาสเสี่ยงแพร่กระจายเชื้อ
วัคซีน Moderna ป้องกันสายพันธุ์ใหม่ได้ไหม?
จากหลักฐานที่มี ณ เวลานี้ วัคซีน Moderna ยังมีประสิทธิภาพในการป้องกันโควิดได้หลายสายพันธุ์ ดังนี้
- สายพันธุ์ที่ค้นพบครั้งแรกในสหราชอาณาจักร (B.1.1.7)
- สายพันธุ์ที่ค้นพบครั้งแรกในแอฟริกาใต้ (B.1.351)
- สายพันธุ์ที่ค้นพบครั้งแรกในบราซิล (P.1)
อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพของวัคซีน Moderna ในการป้องกันโควิดสายพันธุ์ต่างๆ และผลข้างเคียง ยังคงต้องศึกษาเพิ่มเติม ซึ่งทุกคนควรติดตามต่อไป
วัคซีน Moderna ฉีดกี่เข็ม?
กลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์ (Strategic advisory group of experts: SAGE) ขององค์การอนามัยโลก (World health organization: WHO) แนะนำว่าควรรับวัคซีนโควิด Moderna ทั้งหมด 2 เข็ม เข็มละ 100 ไมโครกรัม หรือ 0.5 มิลลิกรัม
โดยเข็มที่ 2 เว้นระยะห่างจากเข็มแรกประมาณ 28-42 วัน ขึ้นอยู่กับแพทย์ประเมิน
วัคซีนโควิด Moderna เหมาะกับใคร?
- วัคซีน Moderna เหมาะกับผู้ที่เข้ากับเงื่อนไข ดังนี้
- ผู้ที่อายุ 18 ปีขึ้นไป
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง และอาจมีความรุนแรงมากขึ้นเมื่อติดโควิด 19 เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหอบหืด โรคปอด โรคตับ และโรคไต
- ผู้ที่ต้องทำงานด้านสาธารณสุข ใกล้ชิดกับผู้ป่วย ผู้ติดเชื้อ หรืองานใดๆ ที่ถือว่ามีความเสี่ยงรับเชื้อสูง
- ผู้สูงอายุ
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาความเหมาะสมก่อนรับวัคซีน
- ผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV เพราะอาจมีความรุนแรงมากขึ้นเมื่อติดโควิด 19
- ผู้ที่เคยติดโควิด 19 แล้ว ควรรับวัคซีนหลังจากติดเชื้ออย่างน้อย 6 เดือน
- สตรีที่อยู่ระหว่างให้นมบุตร
- สตรีที่อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์เป็นรายบุคคลก่อน
อย่างไรก็ตาม แม้จะเข้าเงื่อนไขที่ควรฉีดวัคซีน Moderna แต่หากต้องการรับวัคซีน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาความเหมาะสม และปัจจัยต่างๆ ด้านสุขภาพก่อนเสมอ
วัคซีนโควิดโมเดอร์นาไม่เหมาะกับใคร?
วัคซีนโควิดโมเดอร์นา (Moderna) อาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีเงื่อนไขดังต่อไปนี้
- ผู้สูงอายุที่มีร่างกายอ่อนแอมาก หรือได้รับการประเมินว่าอาจมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน 3 เดือน ควรได้รับการพิจารณาร่วมกับแพทย์เป็นรายบุคคล
- ผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี ควรรอผลการศึกษาเพิ่มเติมก่อน
- ผู้ที่มีอาการแพ้ทั้งแบบรุนแรง และไม่รุนแรงต่อส่วนผสม mRNA ในวัคซีนโควิด-19 ไม่ควรรับวัคซีนชนิดนี้
- ผู้ที่มีพบว่ามีอาการแพ้หลังจากฉีดวัคซีนเข็มแรกไปแล้ว ไม่ควรรับวัคซีนชนิดนี้เพิ่มเติม
- ผู้ที่มีประวัติแพ้สารโพลีเอธิลีน ไกคอล (Polyethylene glycol: PEG) ซึ่งเป็นส่วนผสมในยาและเครื่องสำอางบางชนิด ซึ่งมีอยู่ในวัคซีนโควิดโมเดอร์นา
- ผู้ที่มีประวัติแพ้สารพอลิซอร์เบต (Polysorbate) ซึ่งเป็นส่วนผสมในยาและเครื่องสำอางบางชนิด แม้จะไม่มีอยู่ในวัคซีนโควิดโมเดอร์นา แต่คุณสมบัติใกล้เคียงกับ PEG มาก จึงอาจเป็นอันตรายได้
หากไม่แน่ใจในชนิดของสารที่ตนเองแพ้ แต่ทราบว่าเคยมีประวัติแพ้วัคซีนชนิดใดมาก่อนในอดีต สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาว่าควรฉีดวัคซีนชนิดนี้หรือไม่
วัคซีน Moderna ปลอดภัยไหม?
วัคซีนโควิดโมเดอร์นา (Moderna) ได้รับการตรวจสอบจากองค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (European medicines agency: EMA) และเป็นไปตามเกณฑ์ที่กลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์ (SAGE) จากองค์การอนามัยโลกตั้งไว้
โดย EMA ได้ประเมินข้อมูลประสิทธิภาพ และความปลอดภัยของวัคซีน Moderna แล้ว จึงอนุมัติให้ใช้ได้ทั่วสหภาพยุโรป
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์ยังคงแนะนำให้สังเกตอาการอย่างน้อย 15 นาทีหลังจากรับวัคซีนไปแล้ว สำหรับผู้ที่มีอาการแพ้รุนแรงทันทีหลังรับวัคซีนเข็มแรก ไม่ควรรับวัคซีนเข็มต่อไป
นอกจากนี้ในระยะยาว ยังคงต้องมีการติดตามอาการผู้รับวัคซีนไปแล้วอย่างต่อเนื่อง เพื่อดูว่ามีผลข้างเคียงหรืออาการไม่พึงประสงค์อื่นๆ อีกหรือไม่
ผลข้างเคียงของวัคซีนโควิดโมเดอร์นา
ผลข้างเคียงของวัคซีนโควิดโมเดอร์นา (Moderna) อาจดูคล้ายกับอาการของไข้หวัดใหญ่ ดังนี้
- เจ็บ หรือบวมบริเวณที่ฉีด
- อาจมีอาการหนาวสั่น เป็นไข้
- อาจมีอาการอ่อนเพลีย
- อาจมีอาการปวดหัว
ผลข้างเคียงของวัคซีนโควิดโมเดอร์นา (Moderna) อาจเริ่มแสดงออกภายใน 1-2 วันหลังจากรับวัคซีน โดยอาการจะค่อยๆ ดีขึ้นใน 2-3 วัน
ฉีดวัคซีน Moderna แล้วไม่มีผลข้างเคียง ยังสามารถป้องกันโควิด 19 ได้ไหม?
หากฉีดวัคซีนแล้วไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ก็ยังคงสามารถป้องกันโควิด 19 ได้ เนื่องจากผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นนั้นอาจแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับระบบภูมิคุ้มกันของแต่ละบุคคล ไม่ได้ขึ้นอยู่กับวัคซีนเพียงอย่างเดียว
แม้จะมีการอนุมัติฉีดวัคซีนในหลายประเทศแล้ว แต่ประเทศไทยยังคงนำเข้าวัคซีนมาได้ไม่เพียงพอต่อประชากรส่วนใหญ่ ณ ขณะนี้ ดังนั้น ทุกคนจึงยังคงต้องใส่หน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ และหลีกเลี่ยงที่ชุมชนที่มีความแออัด